Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

Articles

20 วิธีที่ช่วยให้เรียนภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้น

shatna

สวัสดีครับ

ผมไปเจอคลิปชื่อ 20 ways to learn English faster (20 วิธีที่ช่วยให้เรียนภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้น) จัดทำโดย คุณ Shayna  ครูสอนภาษาอังกฤษชาวอเมริกัน เจ้าของเว็บ espressoenglish.net ซึ่งสรุปคำแนะนำ ก็คือ ให้กิจกรรมภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา เราฝึกภาษาอังกฤษวันละ 10 นาทีย่อมได้ผลดีกว่าฝึกสัปดาห์ละครั้งเดียวนาน 1 ชั่วโมง

ผมเห็นว่าคำแนะนำของเขามีประโยชน์มากทีเดียวครับ โดยเราสามารถเลือกมาทำเท่าที่เราพอจะทำได้ แต่วันหนึ่ง ๆ น่าจะทำอย่างน้อย 1 อย่าง และหมุนเวียนไปทำข้ออื่น ๆ บ้าง

http://www.youtube.com/watch?v=Wfiwo9EDXzs

สรุปคำแนะนำของคุณ Shayna ข้างล่างนี้ครับ

  1. แต่ละวัน ให้ได้พูดหรือคิดเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เป็นคำ ๆ หรือเป็นประโยคยิ่งดี
  2. พอลุกขึ้นตื่นนอนและก่อนล้มตัวลงนอน ถือโอกาสฝึกภาษาอังกฤษตอนนั้นเลย เช่น อ่านภาษาอังกฤษสัก 5 นาที โดยวางหนังสือหรือนิตยสารภาษาอังกฤษติดไว้ที่เตียงนอน จะได้หยิบขึ้นมาอ่านได้ง่าย ๆ
  3. มีเครื่องเล่นพร้อมหูฟัง เพื่อเปิดฟังเพลงหรือ podcast เป็นภาษาอังกฤษ ขณะเดินทางไป-กลับระหว่างบ้าน-ที่ทำงาน-โรงเรียน หรือขณะทำงานบ้านหรือออกกำลังกาย
  4. หา App ฝึกภาษาอังกฤษมาใส่ใน smartphone และฝึกกับมัน
  5. อ่านการ์ตูนภาษาอังกฤษ เช่น gocomics.com  โดย registration รับการ์ตูนผ่านอีเมล หรือถ้ามีฝีมือจะเขียนการ์ตูนเป็นภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ก็ยิ่งดี
  6. สมัครรับบทเรียนภาษาอังกฤษฟรีผ่านอีเมล เช่นที่espressoenglish.net มีหลายบทเรียนดี ๆ ให้เรียนเยอะ
  7. ดูหนังฝรั่งที่มี subtitle เป็นภาษาอังกฤษ, subtitle ที่โชว์บนจออาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้เรื่อง และทำให้เราคุ้นเคยกับการฟัง อ่านออกเสียง ภาษาอังกฤษ หนังที่ว่านี้หาได้ง่าย ๆ โดยไปที่ youtube, พิมพ์ชื่อหนังที่เรารู้จักดีลงไป และต่อด้วย ,CC ขณะที่ดูหนังถ้าติดศัพท์สำคัญที่ไม่รู้, ก็คลิก pause และเปิดดูในดิกก่อนก็ได้ แล้วจึงค่อยคลิก play เพื่อดูต่อ, และที่เว็บ eslnotes.com มีโน้ตของหนังดังหลายเรื่องให้อ่าน
  8. ตั้งภาษาหน้าจอของมือถือ, smartphone, Facebook, อีเมล, Twitter ฯลฯ ให้เป็นภาษาอังกฤษ ครั้งแรกอาจจะไม่คุ้นเคยแต่ต่อไปก็จะชิน และช่วยให้เราฝึกอ่านภาษาอังกฤษจากเทคโนโลยีพวกนี้ด้วย
  9. ฝึกใช้ ดิก อังกฤษ – อังกฤษ ให้คล่อง จะได้เข้าใจได้โดยไม่ต้องแปลในสมองเป็นภาษาไทยก่อนทุกครั้ง
  10. อ่านออกเสียงดังเพื่อฝึกการออกเสียง เที่ยวแรก อ่านช้าและออกเสียงแต่ละคำให้ชัด  เที่ยวที่สอง อ่านเร็วขึ้นให้แต่ละคำในประโยคไหลเป็น ธรรมชาติ
  11. อัดสียงพูดภาษาอังกฤษเป็นไฟล์ mp3 หรือคลิปวีดิโอสัก 5 นาที และส่งไปให้คุณ Shayna  ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ช่วยประเมินและแนะนำ 
  12. เรียนภาษาอังกฤษเป็นกลุ่มคำ เช่น เมื่อไปเที่ยวชายหาด (beach) ก็หาว่ามีคำ noun, verb และ adjective อะไรบ้าง ที่เกี่ยวกับ beach หรือกิจกรรมที่เราทำตอนไปเที่ยวชายหาด
  13. ไปที่เว็บสารานุกรมเสรี คือ wikipedia.org และหาเรื่องที่เราสนใจอ่าน  หรือจะอ่าน Simple English Wikipedia ก็ได้ ที่นี่มีทุกเรื่องที่เราสนใจให้เลือกอ่าน
  14. ทำบล็อกเพื่อฝึกเขียนภาษาอังกฤษทุกวัน อาจจะเขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เราสนใจ โดยเปิด account ฟรีที่ wordpress หรือ blogger (ในเรื่องนี้ ที่ง่ายกว่า คือเขียนไดอะรี่ เป็นภาษาอังกฤษทุกวัน และเก็บใส่อีเมลของตัวเอง – พิพัฒน์)
  15. ดูคลิป youtube  ที่มี text เป็นภาษาอังกฤษ อันนี้คล้ายกับที่พูดแล้วเรื่องการดูหนังฝรั่งซึ่งมี subtitle เป็นภาษาอังกฤษ ท่านอาจจะหาอะไรก็ได้ที่ท่านสนใจเพื่อชม-ฟัง-อ่าน ไปพร้อมกัน
  16. ทุกครั้งที่เจอศัพท์ใหม่ ให้แต่งประโยค 3 ประโยคด้วยศัพท์คำนั้น
  17. หาให้พบว่า ใน 4 ทักษะภาษาอังกฤษ คือ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน, ทักษะของตัวเองที่อ่อนที่สุดคืออะไร และก็ฝึกทักษะนั้นมากกว่าทักษะอื่น เช่น ถ้าฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่อ่านรู้เรื่องมากกว่า ก็ต้องฝึกฟังมากหน่อย
  18. หาเพื่อนต่างภาษาที่พูดภาษาอังกฤษ แล้วก็ฝึกพูด ฝึกเขียน กับเขาบ่อย ๆ เช่น พูดทางโทรศัพท์ หรือเขียนอีเมล-แช็ทกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ
  19. ค้นให้พบว่าทำไมเราจึงชอบหรือควรจะฝึกภาษาอังกฤษ และตั้งเป้าเพื่อไปให้ถึง  แต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน เช่น เพื่อการทำงาน เพื่อการเรียนต่อ เพื่อการไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อความเพลิดเพลิน เพื่อการหาความรู้ ฯลฯ
  20. เขาไปที่เว็บ espressoenglish.net ที่นี่มีอะไรให้ฝึกภาษาอังกฤษเยอะแยะเลย

พิพัฒน์

https://www.facebook.com/EnglishforThai

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com