Articles
ฝึกอ่าน – ฝึกฟัง ประโยคที่มีความหมายเหมือนกัน
สวัสดีครับ
ในภาษาอังกฤษ(หรือภาษาไทยก็ตาม) สิ่งที่มีความหมายเหมือนกัน อาจจะใช้ข้อความต่างกัน
มี test ที่เขาทำขึ้นมาเพื่อวัดว่า เราจับได้ไหมว่า ประโยคคู่ไหนที่เขียนต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกัน, เราควรสังเกตด้วยว่า บางทีการใช้แกรมมาร์ เช่น tense ต่างกันไปเล็กน้อย ก็ทำให้ความหมายต่างกันไปเลย พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ แกรมมาร์ในภาษาอังกฤษนั้น มีนัยแสดงความหมายด้วย แต่นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ครูไม่ค่อยได้สอน หรือสอนน้อยเกินไป เราก็ต้องหมั่นสังเกตเอาบ้าง จะให้ครูสอนทุกอย่างก็คงไม่ถูก และท่านอาจจะเคยเจออย่างนี้ คือเราทำถูก แต่เราก็อธิบายไม่ถูกว่า ทำไมข้อนี้จึงถูกต้องกว่าข้ออื่น นี่เป็นเสน่ห์ของภาษาซึ่งคนที่ชอบใช้สมองซีกซ้ายมากเกินไปอาจไม่ค่อยชอบ
Test 54 ชุดในลิงค์ข้างล่างนี้ เป็นการฝึก listening skill หรือ reading skill ได้เป็นอย่างดี, และก็ไม่หนักเกินไป เพราะฝึกทีละข้อเท่านั้นเอง (1 ชุดมี 10 คำถาม)
http://englishteststore.net/index.php?option=com_content&view=article&id=11370&Itemid=486
ถ้าต้องการฝึกอ่านเพื่อเพิ่ม reading skill
- ก็คลิกที่รูปวงรีเพื่ออ่าน script โจทย์, โดยไม่ต้องคลิกรูปสี่เหลี่ยมเพื่อฟัง
- คลิกข้อที่เห็นว่าถูก, คลิก submit
- (ถ้าเขาเฉลยว่า Incorrect, ก่อนจะคลิก OK, ให้ลากหน้าต่างเล็กให้พ้นจากข้อที่เฉลย เพื่อศึกษาเฉลย , แล้วจึงค่อยคลิก OK)
ถ้าต้องการ train หูเพื่อเพิ่ม listening skill
- อย่าคลิกที่รูปวงรีเพื่ออ่าน script ก่อนฟัง
- ให้คลิกฟังที่รูปสี่เหลี่ยม
- ถ้าฟังครั้งแรกไม่แน่ใจ, ก็คลิกฟังซ้ำ
- ควรตั้งใจฟังด้วยสมาธิ, เพื่อให้เข้าใจโดยไม่ต้องฟังซ้ำ
- แต่ถ้าคลิกฟังซ้ำหลายครั้งแล้วก็ยังไม่แน่ใจ, ก็คลิกในเครื่องหมายวงรีเพื่ออ่าน script
- คลิกข้อที่เห็นว่าถูก, คลิก submit
หลังจากที่ดูเฉลยแล้ว บางที่เราก็ยังมองไม่ออกอยู่นั่นเองว่า ทำไมจึงตอบข้อนั้น? แม้เปิดดูตำราก็หาคำอธิบายไม่ได้ ถ้าท่านเจออย่างนี้ก็ไม่ต้องกังวลมากหรอกครับ ทิ้งปัญหาให้คาสมองไว้อย่างนั้นก่อนก็ได้ เพราะสมองที่มีคำถามคาอยู่ คำถามย่อมมีโอกาสกลายเป็นคำตอบ แต่สมองที่โล่งไม่เคยมีคำถามคาไว้ ก็คงไม่เคยพัฒนาเพราะหาคำตอบเองไม่เป็น มันต่างกันอย่างนี้แหละครับ
แบบฝึกหัดชุดนี้ เหมาะสำหรับท่านที่ไม่มีเวลามากสำหรับฝึก ผมอยากจะบอกว่า การฝึกน้อยแต่มีสมาธิมาก บางทีอาจจะได้ผลมากกว่าการฝึกมากแต่มีสมาธิน้อย
พิพัฒน์