การ “ต่อสู้” อย่าง “สันติวิธี”
สวัสดีครับ
มีคำ 2 คำในภาษาอังกฤษที่ผมเห็นว่าน่าสนใจมาก คือ คำว่า means กับ end
Means คือ วิธีการ
End คือ เป้าหมาย
ผมเคยได้ยินพระท่านสอนว่า เป็นเรื่องยากที่จะใช้วิธีการที่เลวเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ดี เช่น มีพุทธพจน์ว่า คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี นี่แสดงว่า วิธีการที่เลวย่อมนำไปสู่เป้าหมายที่เลววันยังค่ำ
คราวนี้มาถึงอีก 1 คำถามที่น่าขบคิดพอ ๆ กันว่า แล้ววิธีการที่ดีล่ะ จะนำไปสู่เป้าหมายที่ดีเสมอไปหรือเปล่า?
ถ้าถามผมก็ขอตอบว่า ตอบยากครับ เพราะมันไม่แน่เสมอไป ท่านลองฟัง case study อันนี้ดูนะครับ:
แม่ไม่ยอมให้ลูกอายุ 3 ขวบกินขนมหวานเพราะกลัวลูกฟันผุ ลูกประท้วงโดยไม่ยอมแปรงฟันก่อนนอน และบอกแม่ว่าขอต่อสู้อย่างสันติวิธีและอารยะขัดขืน
คำถาม:
-การขัดขืนของลูกเป็นสันติวิธี หรือเป็นอารยะขัดขืนหรือเปล่า
-การงดให้ขนมหวานของแม่แก่ลูก เป็นวิธีการที่ถูกต้องหรือเป็นธรรมต่อลูกหรือเปล่า
พอเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของป้าคนหนึ่งที่บ้านอยู่ติดกัน ป้าก็เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยให้ทั้งสองหันหน้ามาคุยกัน ทั้งลูกและแม่ก็ฟ้องป้า
ลูกบอกว่า “แม่ใจดำ ขอกินขนมหน่อยเดียวก็ไม่ให้”
แม่พูดว่า “ลูกพูดไม่รู้เรื่อง พอให้กินก็ไม่รู้จักพอ ถ้าฟันผุก็เดือดร้อน โตขึ้นฟันหลอ แม่ก็ต้องเสียเงินพาไปหาหมอฟัน”
ถ้าถามผมว่าแม่ลูกคู่นี้ ใครถูกใครผิด ผมตอบไม่ได้หรอกครับ แต่ผมพอพูดได้ว่า ทั้งคู่ต้องคุยกัน และถ้าคุยครั้งเดียวยังตกลงกันไม่ได้ก็ต้องคุยกันหลาย ๆ ครั้ง โดยเอาใจกับใจที่มีความจริงมาคุยกัน ผมเชื่อว่าไม่นานนัก ทั้งคู่ก็ต้องคุยกันรู้เรื่อง เพราะถึงยังไงก็อยู่บ้านเดียวกัน และการตกลงคืนดีกันนั้น ใช้เหตุผลอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความรักด้วย
และในระหว่างนี้ที่ยังตกลงกันไม่ได้ ทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องใช้สันติวิธี คือ ลูกก็อย่าประท้วงการถูกงดขนมหวานด้วยการทำลายข้าวของในบ้านเสียหาย และแม่ก็อย่าตีลูกโดยหาว่าลูกดื้อ
พิพัฒน์
e4This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
www.facebook.com/EnglishforThai