e4thai.com

สวัสดีครับ

       บางท่านอาจจะสังเกตว่า เว็บ e4thai.com นี้เน้นเรื่องศัพท์มาก จนท่านอาจจะรู้สึกว่ามากเกินไปนิด ผมอยากจะบอกว่า ถ้าพูดกันหยาบ ๆ ภาษาก็คือเรื่องของศัพท์นั่นแหละครับ

♦-จากศัพท์เป็นคำ ๆ ก็กลายเป็นศัพท์หลายคำซึ่งนำมาต่อกันที่เรียกว่าวลี จากวลีก็โตเป็นประโยค เป็นย่อหน้า  เป็นหน้า  เป็นหลายหน้า  เป็นบท และจนกลายเป็นหนังสือทั้งเล่ม   หลายเล่ม ทั้งหมดนี้ต้องเริ่มจากศัพท์ทีละคำ ๆ ทั้งนั้น

♦-การรู้ศัพท์ต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับศัพท์ คือ ใช้หูฟังเสียงคำศัพท์เข้าใจ, ใช้ปากออกเสียงคำศัพท์ตามที่ได้ยิน, ใช้ตาอ่านคำศัพท์, และใช้มือเขียนคำศัพท์

♦-วิธีเรียนคำศัพท์ที่เป็นธรรมชาติ มิใช่การเปิดดิกหรือพจนานุกรมเพื่อท่องศัพท์ แต่ศัพท์จะมากับเรื่องที่เราอ่านหรือฟัง และเราก็นำศัพท์ที่เรารู้จากการอ่านและฟังไปใช้ในการพูดและเขียน พูดง่าย ๆ อีกอย่างก็คือ ประตูในร่างกายที่ให้ศัพท์เดินเข้ามามี 2 ประตู คือ ประตูตาที่เราอ่าน และประตูหูที่เราฟัง ส่วนประตูที่ศัพท์เดินผ่านออกไปจากตัวเรา ก็มี 2 ประตูเช่นกัน คือ ประตูปากที่เราพูด และประตูมือที่เราเขียน ทั้งหมดที่เล่ามานี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเปิดดิกหรือท่องศัพท์เลย  เพราะศัพท์เข้ามาในร่างกายมากเพียงพอผ่านการอ่านและการฟัง จนไม่จำเป็นต้องเปิดดิก นี่คือเรื่องของฝรั่งเขานะครับ เหมือนกับเราคนไทยที่เกลียดพจนานุกรมจะไม่เปิดมันก็ได้

♠-คราวนี้มาพูดถึงต่างชาติที่เรียนภาษาอังกฤษอย่างคนไทย ขอถามว่าเรามีโอกาสฟังและพูดเยอะ ๆ อย่างฝรั่งหรือเปล่า  หรือตำราที่เราเรียนในชั้นประถม, มัธยม, มหาวิทยาลัย เป็นภาษาอังกฤษที่บังคับให้เราต้องอ่านเยอะ ๆ หรือตอนทำแบบฝึกหัดหรือรายงานส่งอาจารย์ เราถูกบังคับให้ต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษหรือเปล่า  คำตอบคือเปล่าทั้งสิ้น   ไม่ว่าจะเป็นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน

♠-ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เราไม่คล่องสักอย่างเดียว และใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารหรือทำงานไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการ ฟัง พูด อ่าน หรือ เขียน

 ♠-แล้วจะแก้ปัญหานี้ยังไง?

♠-ปัญหานี้ไม่ได้ยากเกินไปหรอกครับ ถ้ายากเข็ญจนแก้ไม่ได้ ฝรั่งมันก็ติดต่อกับใครในโลกนี้ไม่ได้ซีครับ  เพราะฟัง-พูด หรือเขียน-อ่าน โต้ตอบกันไม่ได้  แต่นี่ทำได้ก็แสดงว่ามันไม่ยากเกินไป  โดยการฝึกเพื่อให้ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ภาษาอังกฤษได้ เราต้องทำทุกอย่าง ทั้งอย่างเป็นธรรมชาติและไม่เป็นธรรมชาติ  และผลสำเร็จจะตามมาเอง  หลายคนที่บ่นว่าทำไม่ได้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำมากกว่า หรือทำเดี๋ยวเดียวแล้วเลิก แต่ถ้าได้ทำและทำเรื่อยไปไม่หยุด ก็ต้องทำได้ ที่ชอบพูดกันว่า เมืองไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งจึงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้  ใครที่แย่ภาษาอังกฤษและอ้างอย่างนี้  เขากำลังแก้ตัวและโยนความผิดไปให้ประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาเลย

♠-การจะเก่งภาษาอังกฤษให้สามารถใช้งานได้ ต้องฝึกทุกเรื่องครับ เช่น  อ่านเยอะ ๆ ฟังเยอะ ๆ ฝึกพูดเยอะ ๆ (โดยไม่จำเป็นต้องพูดกับคน ถ้าไม่มีคนให้ฝึกพูดด้วย) ฝึกเขียน  ฝึกท่องและทบทวนศัพท์ ฝึกทำแบบฝึกหัด ฯลฯ ส่วนเนื้อหาที่จะฝึกท่านต้องลงทุนหาและเลือกเอาเองครับ อย่ารอคอยให้ใครมาเลือกให้ หลักเกณฑ์ง่าย ๆ ในการเลือกก็คือ เลือกเรื่องที่เราชอบ, เลือกเรื่องที่เราต้องใช้, เลือกเรื่องที่ไม่ยากเกินไปแต่ก็อย่าให้ง่ายเกินไป  เมื่อเลือกได้แล้วก็ฝึกทุกวัน ถ้าไม่มีเวลาก็ต้องหาให้มีให้ได้

       ที่ผมพูดมายืดยาวทั้งหมดนี้ เป็นไตเติ้ลครับ เนื้อหาจริง ๆ ที่จะแนะนำในวันนี้ คือ มีเว็บที่ให้เราทบทวนศัพท์ที่น่าสนใจมาก มีทั้งศัพท์ง่าย ๆ ของ VOA Special English และศัพท์ยากพวก TOEFL, GMAT, GRE, SAT

ที่เว็บนี้ http://www.vocaboly.com/vocabulary-test/

 และมีการนำศัพท์พวกนี้ไปทำเป็นโปรแกรม  ซึ่งเล่นแล้วน่าสนุกและท้าทายมาก

คลิกดาวน์โหลดโปรแกรม

 ตอนเปิดใช้โปรแกรม ในตอนแรก ขอให้พยายามเรียนรู้วิธีใช้หน่อยนะครับ เช่น

-ที่คอลัมน์ซ้ายมือของโปรแกรม ให้คลิกเลือก Select Book แล้วจึงคลิกเลือก Free Study หรือ By Group

-คลิกเลือก Study หรือ Test หรือ Game

-ถ้าจะฟังเสียงอ่านคำศัพท์เวลาทำ test, ให้กด Listening ก่อน แล้วจึงกดปุ่ม F2 บน keyboard

-พอจะกลับมาหน้าแรก ก็คลิก Return ที่คอลัมน์ซ้ายมือ ล่างสุด

เป็นต้น

ผมขอแนะนำสั้น ๆ เท่านี้แล้วกันครับ  แต่อยากแนะนำแรง ๆ ให้ท่านเข้าไปใช้โปรแกรมนี้  เพราะว่ามันเป็นตัวช่วยให้เราฝึกศัพท์ที่ดีมาก คือ มีศัพท์ถึง 5 กลุ่ม ตามข้างล่างนี้ และแบบฝึก test ของโปรแกรมก็น่าสนุก ไม่น่าเบื่อเลย

ศัพท์ VOA Special English จำนวน 1522 คำ

ศัพท์ TOEFL จำนวน 519 คำ

ศัพท์ GMAT จำนวน 1340 คำ

ศัพท์ SAT จำนวน 5014 คำ

ศัพท์ GRE จำนวน 3758 คำ

ลองดูนะครับ

พิพัฒน์

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.