Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

กฎทองคำ 3 ฝึก:ฝึกฟังเรื่องง่ายๆ, ฝึกอ่านเรื่องง่าย ๆ, ฝึกพูดประโยคง่าย ๆ

 listen-read-speak-english

สวัสดีครับ

          เท่าที่เคยสังเกตเพื่อนร่วมงาน หลายคนที่อยากพูดภาษาอังกฤษแต่พูดไม่ได้ มักบอกสาเหตุสำเร็จรูปที่ทำให้พูดไม่ได้ว่า เพราะไม่มีโอกาสเรียนกับครูเก่ง ๆ(เหมือนคนอื่น ๆ), เพราะไม่ได้ไปเรียนเมืองนอก(เหมือนคนอื่น ๆ), และเพราะไม่มีโอกาสทำงานที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ(เหมือนคนอื่น ๆ) สิ่งที่เพื่อนของผมพูดนี้ล้วนถูกต้อง  แต่มันเป็นส่วนเดียวของภาพทั้งหมด คือส่วนของคำถามที่เขาเจอมาจริง ๆ

          แต่มันยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เขายังไม่ได้พูด คือส่วนของคำตอบที่ยังไม่มีเฉลย และผมอยากจะบอกเพื่อนว่า ถ้าเพื่อนรอให้มีครูมาเฉลย เพื่อนจะไม่มีวันได้รับคำตอบ เพราะว่าคำถามนี้เพื่อนต้องเฉลยเอง  ไม่มีใครมาเฉลยให้เพื่อนหรอก

          คำตอบที่เพื่อนต้องลงทุนหา คือการฝึกจนทำได้เอง และกฎทองคำ ๓ ข้อที่เพื่อนต้องฝึกเองจนทำได้คล่องก็คือ

(๑)ฝึกฟังเรื่องง่ายๆ

(๒)ฝึกอ่านเรื่องง่าย ๆ และ

(๓) ฝึกพูดประโยคง่าย ๆ 

ด้วยการฝึก ๓ เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนก็จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องโดยไม่ต้องสงสัย ผมขอขยายความสักนิดนะครับ

ฝึกข้อที่ ๑ ฟังเรื่องง่าย ๆ

ต้องฟังแล้วจึงพูด คือฝึกพูดตามหลังการฝึกฟัง อย่าฝึกพูดโดยไม่ได้ฝึกฟัง  และท่านต้องฝึกฟังเรื่องง่าย ๆ ที่ท่านพอจะรู้เรื่องบ้าง  ถ้าท่านฟังแล้วไม่รู้เรื่องเลย นี่แสดงว่าเรื่องที่ฟังยากเกินไปไม่เหมาะที่จะใช้ฝึกฟัง ต้องหาเรื่องใหม่ หาไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอเรื่องที่ฟังรู้เรื่อง  ถ้าทั้งเรื่องยาวเกินไปก็หาประโยคที่ฟังแล้วรู้เรื่อง ถ้าทั้งประโยคยาวเกินไปก็หาเป็นคำ ๆ ที่ฟังแล้วรู้เรื่อง  และฝึกฟังกับคำเหล่านี้, ประโยคเหล่านี้, เรื่องเหล่านี้  ทั้งคำ-ประโยค-และเรื่องที่ง่าย ๆ พอฟัดพอเหวี่ยงกับหูของท่านนี้ ท่านควรลงทุนหาเอาเอง อย่าได้ไหว้วานหรือขอร้องหรือบังคับให้ใครหามาประเคน หรือถ้าท่านโชคดีมีคนมาเสริฟให้ถึงหู  ท่านก็ต้องฝึกฟังจนจับได้ว่า คำไหน ประโยคไหน หรือเรื่องไหน ที่มันสมพงศ์กับหูของท่าน และฝึกฟังเยอะ ๆ ให้ช่ำชอง เมื่อชำนาญแล้วท่านก็จะขยับระดับให้สูงขึ้นเองโดยไม่ต้องให้ใครบอก  เพราะท่านจะขี้เกียจฟังเรื่องง่าย ๆ ที่ไม่สมศักดิ์ศรีหูอีกต่อไป

ฝึกข้อที่ ๒ อ่านเรื่องง่าย ๆ

ระดับไหนเรียกว่าง่ายก็ใช้วิธีเลือกเหมือนหาเรื่องมาฟัง การอ่านเรื่องที่ยากเกินไปจะทำให้ท่านเพลียสมอง และไม่มีแรงเหลือไปจดจำหรือสังเกตถ้อยคำที่จะนำมาใช้ในการพูด  แต่ถ้าเป็นเรื่องง่าย ๆ อ่านปั๊บจำได้ปุ๊บ คำศัพท์และลีลาประโยคที่ท่านอ่านและจำได้นี้ จะกลายเป็นกระสุนให้ท่านหยิบเอาไปพูดเหมือนยิงปืนได้เร็วดังใจ เพราะฉะนั้นยิ่งอ่านเรื่องง่าย ๆ เหมือนเคี้ยวอาหารนิ่ม ๆ ให้กระเพาะย่อยได้เร็ว ๆ ท่านก็จะมีพลังงานเป็นกระสุนสำรองไม่หมดง่าย ๆ เอาไปใช้ในการพูด

ฝึกข้อที่ ๓ พูดประโยคง่าย ๆ

การฝึกฟังเรื่องง่าย ๆ อ่านเรื่องง่าย ๆ และฝึกพูดประโยคง่าย ๆ นี้ ท่านสามารถฝึกไปได้พร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการพูด ท่านสามารถฝึกพูดคนเดียวได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิด ทำไมถึงไม่ต้องกลัวผิด?  ท่านพูดผิดได้ยากก็เพราะว่า  เมื่อท่านฟังจนชินหู เมื่อถึงเวลาที่เปล่งเสียงพูด ท่านก็จะพูดตามที่หูได้ยิน เพราะฉะนั้นการฟังเรื่องง่าย ๆ จนชินหูจะเป็นเหมือนครูที่ประคองปากของท่านให้พูดไม่ผิด ท่านอย่าลืมว่าปากห่างจากหูนิดเดียว  เรื่องที่หูได้ยิน ปากก็ได้ยินด้วย

และท่านก็ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิดศัพท์หรือลีลาของภาษาอังกฤษ เพราะเรื่องง่าย ๆ ที่ท่านอ่านจนอิ่มตาอิ่มสมอง  ไม่ว่าจะเป็นคำบอกเล่าหรือคำสนทนา ก็จะช่วยพาให้ปากของท่านพูดไปตามนั้น  และเช่นกันครับ เรื่องง่าย ๆ ที่ท่านอ่านจนชินตาจะเป็นเหมือนครูที่ประคองปากของท่านให้พูดไม่ผิด ท่านอย่าลืมว่าตาก็ห่างจากปากนิดเดียว เรื่องที่ตาเห็น ปากก็เห็นด้วย

          ในเว็บนี้มีเรื่องง่าย ๆ มากมายให้ท่านฝึกฟังด้วยหู,  ฝึกอ่านด้วยตา,  และฝึกพูดด้วยปาก แต่เรื่องใดที่ง่ายพอฟัดพอเหวี่ยงและสมพงศ์กับท่าน  ท่านต้องยอมลงทุนเข้าไปหาเองครับ

ที่ ๓  ลิงค์นี้

Listening - Reading - Speaking

ถ้าจะให้ผมเลือกตามที่ผมเห็นว่าง่ายมาก ๆ ก็น่าจะเป็นที่นี่

          แต่ถ้ามันยังไม่สมพงศ์กับท่าน  ท่านต้องยอมลงทุนหาเอง  เรื่องการหาสื่อในการฝึกภาษาอังกฤษนี่นะครับ ไม่ต่างจากการหาคู่แต่งงานเลยครับ คือเราต้องหาเอง ให้คนอื่นหาให้มันถูกใจยากครับ

          ผมไม่ขอรับรองหรอกครับว่า วิธีที่ผมแนะนำนี่ถ้าท่านนำไปฝึกใช้แล้วมันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน ผมบอกได้แต่เพียงว่า ในฐานะคนรุ่นเก่า ที่เรียนภาษาอังกฤษมาในโรงเรียนอย่างแบบเก่า ๆ โดยไม่มีโอกาสเรียนกับครูฝรั่ง ไม่มีโอกาสไปเรียนเมืองนอก ไม่มีเพื่อนร่วมงานเป็นชาวต่างประเทศ ไม่เคยมีแฟนเป็นฝรั่ง ฯลฯ แต่ก็ต้องใช้การพูดภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินมาหลายปี ก็ด้วยการฝึก ๓ ฝึกตามวิธีที่เล่ามานี่แหละครับ  ผมจึงเชื่อว่า ท่านก็น่าจะฝึกได้ผลบ้าง ไม่มากก็น้อย  ผมขออวยพรให้ท่านทำสำเร็จครับ

พิพัฒน์

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com