Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

เรื่องที่ฝรั่งก็ยังทะเลาะกันเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษของเขา

 สวัสดีครับ

          ท่านผู้อ่านครับ ผมไปเจอคลิปข้างล่างนี้ ชื่อ Misconceptions about English โดย presenter ของคลิปนี้เขาบอกว่ามีหลายเรื่องที่คนจำนวนมากมายยึดถือ-เชื่อถืออย่างผิด ๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ โดยเขายกตัวอย่างมา 10 เรื่อง, เรื่องที่ 1 – 5 เกี่ยวกับแกรมมาร์ และเรื่องที่ 6 – 10 เกี่ยวกับคำศัพท์ เขาบอกว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องใช้อย่างนั้น และในหลายกรณีที่คนเห็นว่าใช้ผิดนี้ จริง ๆ แล้วก็มีการใช้อย่างนั้นมาเนิ่นนานแล้ว ไม่เห็นจะผิดตรงไหน

          ก่อนจะให้ท่านดูคลิปนี้ ผมขอคุยด้วยนิดหน่อยนะครับ

          คือเท่าที่ได้ยินมาก็รู้สึกว่าฝรั่งทั้งนักวิชาการและชาวบ้านก็เถียงกันไม่น้อยว่าการใช้ภาษายังไงถูก ยังไงผิด วันก่อนผมไปเจอหนังสือเล่มนี้ ==>The Penguin Dictionary of American Usage and Style

          ฝรั่งผู้แต่งเขารวบรวมการใช้ภาษาอังกฤษของสื่อมวลชนที่เขาเห็นว่ากำกวม ผิด ๆ เพี้ยน ๆ แล้วเสนอว่าควรจะแก้ไขยังไงให้ถูกต้อง ผมอ่านดูแล้วก็รู้สึกว่าคนเขียนพูดอะไรมีกฎเกณฑ์ดี น่ารับฟัง แต่ผมก็เชื่อว่าความเห็นต่างในเรื่องการใช้แกรมมาร์และคำศัพท์ก็คงมีอยู่ต่อไปตลอดกาล

          คนไทยเราก็เป็นเหมือนกัน เช่น 2 – 3 วันนี้ท่านราชบัณฑิตย์บอกว่า ให้พูดว่า "โรฮีนจา” ไม่ใช่ “โรฮิงญา" อย่างที่เคยพูดกันมาเนิ่นนาน ท่านล่ะครับว่ายังไง

          ใน Wikipedia มีบทความหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่น่าอ่าน

          Common English usage misconceptions - Wikipedia

          สำหรับพวกเราที่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษา ถ้าต้องทำข้อสอบไม่ว่าจะเป็นแกรมมาร์แบบเลือกข้อ a, b, c, d หรือ writing ที่ต้องเขียน ผมว่าถ้าจะให้ปลอดภัยเราก็น่าจะเขียนอะไรที่มัน formal ไว้ก่อน

          ขอเล่าอีกสัก 1 ตัวอย่างนะครับ คือ ผมเคยเจอคำอธิบายการใช้ they เพื่อเป็น pronoun แทน anyone, no one, someone, หรือ a person

ที่มา: New Oxford American Dictionary

Usage: The word they (with its counterparts them, their, and themselves) as a singular pronoun to refer to a person of unspecified sex has been used since at least the 16th century. In the late 20th century, as the traditional use of he to refer to a person of either sex came under scrutiny on the grounds of sexism, this use of they has become more common. It is now generally accepted in contexts where it follows an indefinite pronoun such as anyone, no one, someone, or a person: anyone can join if they are a resident; each to their own. In other contexts, coming after singular nouns, the use of they is now common, although less widely accepted, esp. in formal contexts. Sentences such as ask a friend if they could help are still criticized for being ungrammatical

         โดยที่ก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านตำราแกรมมาร์ซึ่งบอกว่า คำพวกนี้ซึ่งไม่ระบุเพศให้ใช้ pronoun he แทน

        ก็คงต้องให้ฝรั่งเจ้าของภาษาเขาทะเลาะกันต่อไป ส่วนเราเองจะใช้ภาษาอังกฤษแบบไหน ก็ดูความเหมาะสมตามสถานการณ์แล้วกันครับ

        เอาละครับ ขอเชิญท่านดูคลิปที่ผมว่า และถ้อยคำสรุปที่ผมทำไว้ใต้คลิปนี้ได้เลยครับ

 

 [1]อย่าขึ้นต้นประโยคด้วย conjunction เช่นคำว่า and, but, so ฯลฯ เขาบอกว่าไม่มีกฎเกณฑ์ห้ามไว้ และนักเขียนดัง ๆ ในอดีตซึ่งเขียนอย่างนี้ก็มีเยอะแยะไป

 [2]ย่อหน้าหนึ่ง ๆ ต้องมีหลายประโยค เขาบอกว่าไม่จำเป็น ถ้ามันสื่อความได้ครบจบได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับอะไรอีก แค่ประโยคเดียวก็เป็นย่อหน้าได้แล้ว และเราก็เจอบ่อยในเนื้อข่าวที่เขียน 1 ประโยค 1 ย่อหน้า

 [3] มีกฎเกณฑ์แน่นอนในการเขียน apostrophe’ s สำหรับการแสดงความเป็นเจ้าของในคำนามเอกพจน์ เขาบอกว่า มันไม่แน่ คือเราจะเขียนว่า boss’ report หรือ boss’s report ก็ได้ แต่จะเลือกเขียนยังไงก็ให้มันเหมือนกันตลอด

 [4] อย่าจบประโยคด้วย preposition เขาบอกว่า เรื่องนี้ทำได้ ถ้าเขียนอย่างนี้แล้วมันสื่อความได้เคลียร์

 [5] อย่าแยก to กับ verb ช่อง 1 (เรียกว่า split infinitive) เช่น to quickly eat, เอา quickly มาคั่นอย่างนี้ถือกันว่าไม่ถูกต้อง แต่เขาบอกว่า บางทีมันก็ไม่เป็นไร เขายกตัวอย่างจากหนังทีวีเรื่อง Star Trek ซึ่งมีประโยคว่า  to boldly go where no man has gone before

 [6] คำว่า Caesarean sections ตั้งขึ้นตาม Julius Caesar อันนี้เขาบอกว่าไม่ใช่

 [7] เมื่อจะบอกว่า ฉันสบายดี อย่าพูดว่า I’m good แต่ให้พูดว่า I’m well. เขาบอกว่าจะพูดยังไงก็ได้

 [8] คำว่า whose ใช้อ้างถึงคนเท่านั้น เขาบอกว่า คำนี้ก็ใช้อ้างถึงทั้งคนและสิ่งของมาตั้งแต่เนิ่นนานเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว

 [9] คำว่า literally (ตามตัวอักษร) ไม่ให้หมายความว่า figuratively แต่เขาบอกว่าแม้แต่ดิก oxford ยังให้อีกความหมายหนึ่งของ literally ว่า in effect (มีผล)

 [10] คำว่า decimate แปลว่า ฆ่า 1 ใน 10 เขาบอกว่า ไม่ใช่หรอก แม้แต่ดิก Webster ยังให้ความหมาย decimate ว่า destroy อย่างขนาดหนัก

          ผมนำมาให้ดูเล่น ๆ ไม่ต้องไป serious อะไรกับมันหรอกครับ

 พิพัฒน์

 https://www.facebook.com/En4Th

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com