recall ศัพท์ ทีละ 200 คำ, จนครบ 3000 คำ
สวัสดีครับ
ในฐานะคน ๆ หนึ่งซึ่งฝึกการใช้ภาษาอังกฤษและคนทำงานที่ผ่านการใช้ภาษาอังกฤษมานานพอสมควร ผมประจักษ์แกใจว่า การรู้ศัพท์ให้เพียงพอเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร แค่ 2 – 3 พันคำก็พอจะใช้งานได้แล้ว และ 2 – 3 พันคำพื้นฐานนี่แหละครับ จะช่วยให้เราเดาและเข้าใจศัพท์ยากที่เจอ พอเจอบ่อย ๆ, เดาบ่อย ๆ, ศัพท์ยากใหม่ ๆ ก็จะค่อย ๆ กลายเป็นศัพท์ง่าย ซึ่งนี่ก็คือการค่อย ๆ รู้ศัพท์มากขึ้น
จากที่พูดมานี้ก็เพื่อจะบอกว่า ถ้าเรายอมลงทุนเรียนรู้ศัพท์สัก 2 พันคำแรกให้รู้เรื่องและจำได้ ก้าวต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก คำถามที่ต้องถามตัวเองตอนนี้ก็คือ ตอนนี้เรารู้ศัพท์พื้นฐานที่ควรจะรู้มากน้อยแค่ไหน?
มีสำนักดังมากมายจัดทำ word list คือคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ ซึ่งศัพท์ใน list ของแต่ละสำนักก็อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง เรื่องนี้ผมไม่ค่อย serious เท่าไรนัก, list ไหนก็ได้ จับมาศึกษาจริงจังสักอันก็ใช้ได้
วันนี้ผมขอแนะนำ list หนึ่ง ซึ่งเขานำศัพท์จากหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำในสหรัฐอเมริกา 40 ฉบับ มารวบรวมและจัดความถี่, และดึงคำที่เจอบ่อยสุด 3000 คำ มาทำเป็น word list, หลังจากนี้ก็แบ่งย่อยเป็น 15 กลุ่ม ๆ 200 คำ, เสร็จแล้วดึงคำซ้ำหรือคำที่เหมือน ๆ กันออก เช่น คำที่ลงท้ายด้วย –ing หรือ –ed (แต่ถ้าเป็นชื่อเฉพาะที่คนทั่วไปรู้จักดีก็คงไว้ เช่น ชื่อคนดัง) ทำให้แต่ละกลุ่มเหลือคำศัพท์ประมาณ 150 คำ (จากทั้งหมด 3000 เหลือ 2126 คำ), เสร็จแล้วในแต่ละกลุ่มก็เรียงใหม่ตามตัวอักษร a, b, c, d…
คือลิงก์นี้ครับ http://www.paulnoll.com/Books/Clear-English/English-3000-common-words.html
ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะว่า ผมเข้าไปศึกษาดูแล้วและเห็นว่า ถ้าเราค่อย ๆ ศึกษาทีละกลุ่ม (ศึกษาแค่ครั้งละ 150 คำ, ไม่ใช่ทีเดียว 2000 คำ) จากง่ายสุดไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ในไม่ช้าไม่นาน เราก็จะมีศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ตุนไว้ในสมอง และหลังจากนี้การต่อยอดก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ท่านอาจจะถามว่า นี่ผมมาชวนให้ท่านท่องศัพท์ทีละ 150 คำจนครบ 2000 คำใช่ไหม? ขอตอบว่า ไม่ใช่และใช่, ไม่ใช่ก็เพราะว่า ผมอยากให้ท่านฝึกอ่านเรื่องราวอะไรก็ได้ที่ท่านชอบทุก ๆ วัน และท่านก็ได้เรียนรู้จดจำคำศัพท์อย่างเป็นธรรมชาติกับเรื่องราวเหล่านั้นที่ท่านอ่าน – นี่คือเหตุผลที่ตอบว่าไม่ใช่! แต่ที่ตอบว่าใช่ก็เพราะว่า ศัพท์ใน list 2000 คำ กลุ่มละ 150 คำที่นำมาแนะนำในวันนี้ ผมอยากให้ท่านใช้เป็นเครื่องมือสำหรับ recall หรือระลึกถึงศัพท์ที่ท่านอ่านเจอในเนื้อเรื่องที่ท่านอ่าน มันอาจจะตรงหรือต่างกันไปบ้างก็ไม่ต้องไป serious อะไรมากมายหรอกครับ แต่การทำทั้ง 2 อย่างเช่นนี้ จะช่วยให้เรารู้ศัพท์เร็วขึ้น คือ ทั้งจากการ read และ recall ซึ่งดีกว่าทำอย่างเดียว
ผมหาคำแปลภาษาไทยมาแนบไว้ให้แล้ว เมื่อคลิกเข้าไปท่านก็เพียงวางเมาส์บนคำศัพท์ ก็จะเห็นคำแปล ท่านไม่ต้องลานตากับคำแปลเยอะ ๆ นะครับ คำแปลพื้นฐานมักจะเป็นคำแปลในบรรทัดต้น ๆ แต่ขอแนะนำว่า ก่อนวางเมาส์ ขอให้ท่าน recall คือนึกก่อนว่ามันแปลว่าอะไร ส่วนคำอ่านขอให้ดูบรรทัดที่ลงท้ายด้วยคำว่า [Hope], ต้นบรรทัด [Hope] จะมีคำอ่านภาษาไทยให้ท่านดู
เชิญครับ...
- 01st and 02nd Hundred Words (187)↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 03rd and 04th Hundred Words (160) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 05th and 06th Hundred Words (161) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 07th and 08th Hundred Words (146) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 09th and 10th Hundred Words (152) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 11th and 12th Hundred Words ( 144) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 13th and 14th Hundred Words (144) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 15th and 16th Hundred Words (137) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 17th and 18th Hundred Words (140) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 19th and 20th Hundred Words (115) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 21st and 22nd Hundred Words (140) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 23rd and 24th Hundred Words (125) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 25th and 26th Hundred Words (123) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 27th and 28th Hundred Words (126) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
- 29th and 30th Hundred Words (126) ↔คลิก & วางเมาส์บนคำศัพท์เพื่อดูคำแปล
พิพัฒน์