Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

บทฝึกเงียบ ๆ สำหรับคนรักดิกจริงจังแบบหวังผล (ต้องตั้งใจอ่าน)

hwvq123    

สวัสดีครับ

คำเตือน:

บทความนี้ ผมตั้งใจเขียนให้คุณครูนำไปสอนเด็กที่ตั้งใจเรียน  และสำหรับท่านผู้อ่านที่เอาจริงเอาจังในการฝึก มันอาจจะอ่านไม่สนุก ถ้าท่านเป็นคนเครียดง่าย ขอเตือนว่า อย่าอ่านเลยครับ

             ดิก (dictionary) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการเรียน-ฝึก-ฟื้น-และฟิต ภาษาอังกฤษ เพราะในดิกเล่มหนึ่ง ๆ จะมีรายการคำศัพท์ พร้อมคำแปล ความหมาย การอ่านคำศัพท์ ประโยคตัวอย่าง วิธีใช้  และอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับคำศัพท์ให้ศึกษา

     คำถามของผมก็คือ ในฐานะคนเรียนภาษาอังกฤษ ท่านรักดิกหรือเปล่า ถ้าท่านตอบว่ารัก ขอถามว่า ท่านรักดิกเพียงผิวเผิน หรือรักจริงจัง? ถ้าท่านชักจะไม่แน่ใจว่าควรจะตอบยังไง !!  ผมมีดิกให้ท่านดู 3 ประเภท, ถ้าท่านรักหมดทุกประเภท  แสดงว่าท่านรักจริง แต่ถ้าท่านรักเพียงบางเล่ม และเกลียดบางเล่ม   แสดงว่าท่านลำเอียง เลือกที่รักมักที่ชัง  และจะไม่ได้รับปรโยชน์อย่างเต็มที่จากดิก

ดิกประภทที่ 1: ดิก อังกฤษ  - ไทย

ผมขอยกตัวอย่างเล่มหนึ่งซึ่งดีมาก คือ  Longman Basic English – Thai Dictionary เป็นดิก อังกฤษ – ไทย บรรจุคำศัพท์และวลีพื้นฐาน ประมาณ 12,000 คำ และที่เยี่ยมก็คือ มีประโยคตัวอย่าง และคำแปลประโยคตัวอย่างเป็นภาษาไทยให้เราศึกษาอีกด้วย

http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf/longman%20basic%20english-thai%20dictionary.pdf  

ดิกประภทที่ 2: ดิก อังกฤษ  - อังกฤษ

ผมขอยกตัวอย่างดิกประเภทนี้ซึ่งดีมาก ๆ ให้ท่านศึกษา 4 เล่ม คือ

[1]มีศัพท์ 10,000 คำ:Easier English Basic Dictionary

[2]มีศัพท์ 28,000 คำ:Easier English Intermediate Dictionary

[3]มีศัพท์ 32,000 คำ:Easier English Student Dictionary

[4]มีศัพท์ 95,000 คำ:Longman Dictionary of American English New 4th Edition

แต่ละเล่ม  เราสามารถศึกษาคำจำกัดความง่าย ๆ เป็นภาษาอังกฤษ และโดยทั่วไป จะมีประโยคตัวอย่างให้ดูแทบทุกคำ ดิกประเภทที่ 2 นี่จะอ่านยากกว่าประเภทที่ 1 เพราะเราจะต้องอ่านด้วยใจที่เงียบ เป็นสมาธิ เพื่อตีความ (+เดา) ให้รู้เรื่อง ทักษะนี้ต้องอาศัยขันติและวิริยะซึ่งทุกคนมีแต่อาจจะไม่ได้ใช้ 

ดิกประภทที่ 3: ดิก อังกฤษ   

เป็นดิกที่ไม่บอกทั้งคำแปล  และไม่บอกความหมาย แต่ท้าให้เราเดาความหมาย และแถมยังไม่เฉลยอีกด้วย  ท่านอาจจะงงว่ามันคืออะไรกันแน่ ผมมีตัวอย่างมาให้ดู 3 เล่ม ดังนี้ครับ

  1. New Headway Pre-Intermediate Vocabulary Quizzes คลิก
  2. New Headway Intermediate Vocabulary Quizzes  คลิก
  3. New Headway Upper-Intermediate Vocabulary Quizzes คลิก

ก่อนที่จะอ่านต่อไป  ขอให้ท่านคลิกเข้าไปดูเล่มใดเล่มหนึ่งก่อนนะครับ

  1. เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว  ท่านจะเห็นว่า แต่ละเล่ม (ประมาณ 30 หน้า) มี 12 Unit
  2. แต่ละ Unit แบ่งศัพท์ออกเป็น 4 – 5 กลุ่ม ๆ ละประมาณ 10 – 20 คำ
  3. เมื่อดูที่คอลัมน์ซ้ายมือ ท่านจะเห็นว่า มันกำกับด้วยตัวเลข 1...  2...  3... นำหน้าคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย a…. b….  c… เรียงลำดับไปเรื่อย ๆ จนถึง x… y… z….  จากกลุ่มแรกไปจนถึงกลุ่มสุดท้าย ของแต่ละ Unit, พอขึ้น Unit ใหม่ ก็เรียง 1...  2...   3... a…  b… c… ชุดใหม่
  4. และศัพท์ในแต่ละกลุ่มนั้น ในบรรทัดเดียวกันที่คอลัมน์ขวามือ จะมีวลีเทียบ โดยหน้าวลีนี้จะมีตัว a… b…. c… กำกับ
  5. หน้าที่ของท่าน คือ โยงข้อ 1...   2...  3... ในคอลัมน์ซ้ายมือ   ให้เข้ากับ ข้อ  a… b… c… ในคอลัมน์ขวามือที่มีความหมายสอดคล้องกัน โดยโยงกลุ่มใครกลุ่มมัน เช่น  กลุ่มนี้ในคอลัมน์ซ้ายมือมี 20 ข้อ ก็โยงให้เข้ากับ ตัว a… ถึง t…. .ในคอลัมน์ขวามือของกลุ่มเดียวกันเท่านั้น  ไม่ต้องไปมองกลุ่มอื่น

       ที่ผมอธิบายมานี้ท่านงงไหมครับ ถ้างงก็เลื่อนขึ้นไปอ่านใหม่ ข้อ 1 - 5 ข้างบนนี้ พร้อมกับเปิดดูไฟล์ ebook ประกอบ  เดี๋ยวก็จะเข้าใจครับ

นี่เป็นดิกประเภทที่ 3 เป็นแบบฝึกหัดดิก   วิธีฝึกที่ง่ายที่สุด ก็คือ

[1]ทำทีละ Unit, โดยแต่ละ Unit ให้ฝึกทำทีละกลุ่ม

[2]แต่ละกลุ่ม อ่านทุกคำในคอลัมน์ซ้ายมือก่อน  แล้วก็อ่านวลีในคอลัมน์ขวามือ  หรือจะอ่านด้านขวาก่อนด้านซ้ายก็ได้

[3]แล้วก็ค่อย ๆ โยงคำด้านซ้ายให้เข้ากับวลีด้านขวา ทีละข้อ ๆ โดยทำข้อที่แน่ใจก่อน ข้อไหนไม่แน่ใจก็เว้นไปก่อน เก็บไว้ทำตอนหลัง

       ข้อสังเกต: คำศัพท์ด้านซ้าย และวลีด้านขวา นอกจาก match กันด้านความหมายแล้ว ยังต้อง match กันด้าน part of speech อีกด้วย เช่น ถ้าศัพท์เป็นคำ adjective - adj, วลีก็ต้องสื่อว่าเป็นคำ adj ด้วย

คลิกตรงนี้ เพื่อดูตัวอย่าง

       ท่านผู้อ่านครับ  ชุด New Headway   Vocabulary Quizzes ที่ผมนำมาฝากนี้ เป็นคำศัพท์ระดับกลาง คือ pre-intermediate, intermediate และ upper-intermediate แต่ถ้าท่านฝึกทำจนครบถ้วน ท่านจะได้ฝึกอ่าน, ฝึกเดา, ฝึกตีความ มากพอสมควรทีเดียว  และผมเชื่อว่า  จะช่วยให้ทักษะในการใช้ดิกของท่านสูงขึ้นอีกเยอะ

       บทเรียนชุดนี้ เป็นการฝึกโดยใช้สมาธิแบบนิ่งและเงียบ

       ในการฝึกภาษาอังกฤษนั้น บางเวลาเราต้องใช้หูที่เป็นสมาธิเพื่อฟังเสียงดัง (listening), บางเวลาเราต้องใช้ปากที่เป็นสมาธิเพื่อเปล่งเสียงออกไปดัง ๆ (speaking) แต่บางเวลาเราก็ต้องใช้ความคิดที่นิ่งและเงียบ  ไม่ต้องมีเสียงดังใด ๆ ทั้งสิ้น ก็คือ บทที่เรากำลังฝึกกับดิกนี่แหละครับ

        ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า อ้าว! แล้วดิกประเภทที่ 1 (อังกฤษ-ไทย) และประเภทที่ 2 (อังกฤษ-อังกฤษ) นั้น เอามาพูดทำไม?  คำตอบก็คือ แบบฝึกหัดใช้ดิกนี้  ถ้ามันยากและหาคำตอบไม่ได้ ก็ไป search หาเฉลยในดิกประเภทที่ 1 และ 2 นั้นแหละครับ

 พิพัฒน์ 

 https://www.facebook.com/En4Th

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com