สวัสดีครับ
       คนที่รู้ศัพท์เยอะ ๆ จะอ่านอะไรก็ไม่ต้องเปิดดิก เพราะรู้ศัพท์แทบทุกคำ คำไหนไม่รู้ก็เดาได้  หรือถ้าจะเปิดดิกก็นาน ๆ ครั้งเฉพาะคำสำคัญจริง ๆ ที่เดาผิดจะเสียหายมาก
       ศัพท์ที่เรารู้ก็เหมือนบัตรเดบิต หรือ Debit Card ที่เราใช้ รู้ศัพท์น้อยเกินไปก็เหมือนถือบัตรเดบิตที่มียอดเงินฝากต่ำ  รูดซื้อได้แต่ของง่าย ๆ ราคาถูก ๆ หรืออ่านภาษาอังกฤษได้แต่เรื่องง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนที่ใช้ศัพท์แบบเด็ก ๆ แต่ถ้ารู้ศัพท์เยอะก็เหมือนถือบัตรเดบิตที่มียอดเงินฝากสูง จะซื้อของถูกหรือของแพงก็รูดได้ตามใจ  หรืออ่านภาษาอังกฤษได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องง่าย เรื่องยาก ใช้ศัพท์เตี้ย ศัพท์สูง อ่านได้ทั้งนั้น
       คลังศัพท์ที่ท่านรู้กับบัตรเดบิตที่ท่านใช้ มันมีความเหมือนอย่างที่ว่ามานี้ แต่ก็มีความต่างที่จะว่าต่อไปนี้
       [1] บัตรเดบิต ยิ่งใช้มาก-เงินยิ่งหมดมาก มีภาระต้องหาเงินมาเติม แต่ศัพท์ที่ท่านรู้อยู่ในคลังศัพท์ส่วนตัว ยิ่งใช้มาก-นอกจากไม่ลด ไม่หมด กลับยิ่งมาก ยิ่งจำได้ ยิ่งเข้าใจ ยิ่งแตกลูกเป็นดอกเบี้ยเพิ่มในคลังสมองของศัพท์
       [2] ถ้าอยากจับจ่ายไม่ยั้ง รูดได้ทุกอย่างที่อยากซื้อ ก็ต้องขยันหาเงินโปะในบัญชีไม่มีวันจบ และในความเป็นจริง เงินน่ะ!  มันหาเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ  แต่ถ้าอยากอ่านได้โดยไร้รอยต่อ อ่านได้ทุกอย่างที่อยากอ่าน ก็เพียงขยันหาศัพท์โปะเพิ่มในคลังให้ได้สัก 10,000 ถึง 15,000 คำก็พอ ก็จะอ่านได้ไม่ติดขัด แม้ติดขัดก็เดาได้ แม้บางคำเดาไม่ได้ ก็เพียงนาน ๆ ทีที่ต้องเปิดดิก แต่ทั้งเดาและเปิดดิกเมื่อทำเป็นนิสัย ศัพท์ก็จะเพิ่มเรื่อยไปเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่

       Debit Card กับ Vocab Debit Card จึงเหมือนกันและต่างกัน ด้วยประการฉะนี้

       แต่การเติมศัพท์ใน Vocab Debit Card จะทำอย่างไร ให้พอใช้และเติมได้เร็ว?
       จากประสบการณ์ส่วนตัวและคำบอกเล่าของผู้รู้ มีอยู่ 3 วิธี และทุกคนควรใช้ให้ครบทุกวิธี แต่จะใช้วิธีใด มาก-น้อย-บ่อย-ห่าง อย่างไร นั่นต้องตัดสินใจเอาเองครับ
       วิธีที่ 1: ท่องเข้าไปตรง ๆ และนำคำศัพท์ที่ท่องมาทบทวนเรื่อย ๆ
       วิธีที่ 2: เข้าไปเจอคำศัพท์ ทั้งเก่าและใหม่ โดยฝึกอ่านและฝึกฟังภาษาอังกฤษทุกวัน ถ้ามีโอกาสก็นำทั้งศัพท์เก่าและศัพท์ใหม่ มาใช้พูดและใช้เขียน (ถ้าไม่มีโอกาสก็พยายามหา)  วิธีที่ 2 นี้จะได้ผลจริงจังก็ต่อเมื่อฝึกอ่านโดยไม่พึ่งคำแปล คำแปลนั้นช่วยให้เราอ่านรู้เรื่อง แต่ทำให้การฝึกอ่านของเราไม่ได้เรื่อง  ถ้าเอาแต่พึ่งคำแปลโดยไม่พึ่งตัวเอง
       วิธีที่ 3: ถ้าวิธีที่ 2 เหมือนนักมวยขึ้นชกบนเวที วิธีที่ 3 ก็เหมือนซ้อมก่อนขึ้นชก ซึ่งจะช่วยให้การชกจริงเจ็บตัวน้อย ได้ประสบการณ์มาก และมีโอกาสชนะสูง  วิธีนี้ก็คือ การทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น story หรือ vocabulary test, เล่นเกมคำศัพท์มากมายหลายรูปแบบ ฯลฯ ซึ่งในเว็บ e4thai.com นี้ก็มีให้เล่นเยอะทีเดียว เพียงคลิกที่คำว่า → Vocabulary, →Test หรือ →Games ที่คอลัมน์ซ้ายมือของหน้าเว็บ เข้าไปแล้วเลือกเล่นได้ตามชอบใจครับ
       และวันนี้ผมมีมาแนะนำเพิ่มอีก 2 กิจกรรม คือ
กิจกรรมที่ 1: 
ลิงก์ที่ 1 ศัพท์ทั่วไป (General Vocabulary)
http://www.englishvocabularyexercises.com/general-vocabulary/index.html# 
เข้าไปแล้ว คลิกที่ปุ่มซึ่งเป็นลิงก์ ตามภาพข้างล่างนี้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 18 ปุ่ม หรือ 18 กลุ่มคำศัพท์
 
ลิงก์ที่ 2 ศัพท์วิชาการ หรือศัพท์สูงขึ้นไปหน่อย (Academic Word List)
http://www.englishvocabularyexercises.com/academic-word-list/index.html# 
เข้าไปแล้ว คลิกที่ปุ่ม Sublist  มีทั้งหมด 10 ปุ่ม ซึ่งเป็นลิงก์ ตามภาพข้างล่างนี้
 
       ทั้ง ลิงก์ที่ 1 และ 2 กิจกรรมที่ให้ทำจะแบ่งเป็น Group แต่ละ Group จะแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1  -อยู่ท่อนบน

     เป็นกลุ่มคำศัพท์เรียงเป็นคอลัมน์ ๆ ซึ่งเมื่อคลิกจะเป็นลิงก์ไปสู่ definition ที่ Longman Dictionary (ดิก Longman มีลักษะพิเศษที่ดิกยี่ห้ออื่นไม่มี คือคลิกฟังเสียงอ่านประโยคตัวอย่างได้)

     ในแต่ละคอลัมน์(แต่ละกลุ่ม)นี้ ท่านจะคลิกศึกษาเฉพาะคำศัพท์ที่ท่านไม่รู้จักก็ได้ ไม่จำเป็นต้องคลิกศึกษาทุกคำ
ส่วนที่ 2 - อยู่ท่อนล่าง

     เป็น Exercise อยู่ในคอลัมน์เดียวกันแต่ใต้ลงมา เขาจะนำศัพท์ใน Group ข้างบนที่ท่านศึกษาแล้ว มาให้ท่านฝึก โดยให้ประโยคตัวอย่างมาแต่แหว่งไป 1 คำ, คำที่แห่วงก็อยู่ใน Group ในคอลัมน์ข้างบนนั่นแหละ แต่ท่านต้องคลิกเลือกเติมให้ถูกต้องกับประโยคที่เป็นโจทย์ (แต่ละกลุ่มคำศัพท์มีหลาย Exercise ให้ทำ)
       ท่านผู้อ่านครับ โจทย์ในลิงก์ที่ และ 2 นี้ จะช่วยให้ท่านทบทวนศัพท์เก่าและเพิ่มศัพท์ใหม่โปะใส่คลังศัพท์  หรือช่วยเพิ่มยอดใน Vocab Debit Card ของท่านได้เป็นอย่างดี โดยกิจกรรมทั้งการ train ในส่วนที่ 1 และการ Test ในส่วนที่ 2 นี้ ทำขึ้นมาโดยอาศัยทฤษฎีทางวิชาการ ออกมาเป็น 800 Exercise เพื่อให้ท่านเรียนรู้คำศัพท์ที่ควรรู้ 2,100 คำนี้อย่างรวดเร็ว ... มันเป็น 2,100 คำซึ่งท่านจะต้องไปเจอในชีวิตการอ่านภาษาอังกฤษจริง ๆ
       ท่านอาจจะถามผมว่า ศัพท์ 2,100 คำนี้ใช้วิธีที่ 1 คือท่องอัดเข้าไปตรง ๆ ไม่ได้หรือ? คำตอบของผมก็คือ ได้ครับ ท่านจะท่องอัดเข้าไปก็เชิญทำได้ตามอัธยาศัย แต่การท่องอัดถ้าทำมากเกินไป ระวังสมองช้ำ เตือนด้วยห่วงและรักครับ
กิจกรรมที่ 2:
Word of the Day 1,465 คำ
       เป็นรายการแนะนำคำศัพท์ 1 วัน 1 คำ ที่หลายเว็บก็ให้บริการอยู่  ท่านหาในกูเกิ้ลก็จะเจอเยอะ →Word of the Day  ซึ่งผมขอแนะนำสัก 1 เว็บ ของ → Merriam – Webster Learner's Dictionary
       แต่ Word of the Day ที่ผมนำมาแนะนำในวันนี้ พิเศษกว่าเว็บอื่นตรงที่ แต่ละคำพบบ่อยที่เขาเลือกมาให้เราศึกษานั้น

1. เขาอธิบายด้วยภาษาพูดง่าย ๆ ไม่ใช่ภาษาที่เขียนในดิกชันนารีที่ค่อนข้างเป็นทางการ
2. เขาเลือกมาอธิบายเฉพาะความหมายที่ใช้บ่อย ไม่ใช่มีกี่สิบความหมายก็ยกมาอธิบายหมด ทั้ง ๆ บางความหมายเราแทบไม่เคยรู้จัก
3. เขาอธิบายด้วยประโยคตัวอย่างหลาย ๆ ประโยคที่ช่วยให้เราเห็นการใช้คำศัพท์จริง ๆ
4. และที่เยี่ยมที่สุดก็คือ ข้อความและประโยคทั้งหมดที่อธิบายมีเสียงให้คลิกฟัง และเขาพูดช้า พูดชัด เหมาะสำหรับการเริ่มฝึก listening skill

   → เชิญคลิกดูได้เลยครับ

       แต่ว่าเมื่อท่านดูคำศัพท์ ตั้งแต่ A – Z 1,465 คำในลิงก์นั้นแล้ว ท่านอาจจะรู้สึกว่าบางคำยากเกินไป จำแล้วคงไม่ได้ใช้ เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ผมเลยลอกคำทั้งหมดไปให้ดิก Oxford เขาช่วยเช็ก ผลออกมาว่ามีอยู่ 71 % อยู่ในกลุ่มศัพท์พื้นฐาน 3,000 คำที่ Oxford เขาวิจัยไว้ โดยศัพท์ 29 % นอกกลุ่มนั้น แสดงเป็นตัวสีแดง → ที่ลิงก์นี้
       ถ้าท่านจะเลือกศึกษาศัพท์ตัวดำที่พบบ่อยก่อนศัพท์ตัวแดงที่พบไม่บ่อย ก็ตามสะดวกครับ

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
     วันนี้ผมเสนอวิธีเติมศัพท์ให้เต็ม Vocab Debit Card ที่ท่านสามารถพกติดตัวไปใช้ได้ทุกโอกาส

และขอให้ท่านเพลิดเพลินในการใช้ศัพท์จับจ่าย และเติมศัพท์ใส่บัตร

เพื่อใช้รูดอ่านได้ทุกเรื่องที่อยากอ่าน - รูดฟังได้ทุกเรื่องที่อยากฟัง
       ขอให้ท่านประสบความสำเร็จเรื่อย ๆ โดยเร็ว มีศัพท์ใช้ไม่ขาดมือ  ตลอดปีใหม่ระกาที่กำลังมาถึงครับ
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th