เสน่ห์ของป้ายจราจรทางหลวงในอินเดีย
สวัสดีครับ
หลายคนที่ผมคุยด้วยบอกว่าไม่ขอไปอินเดีย หาว่าอินเดียสกปรก ผมเองไปอินเดียมา 4 ครั้งแล้วและไม่เถียงว่าอินเดียมีหลายที่ซึ่งสกปรก แต่ที่ซึ่งสะอาดก็มี อินเดียเป็นอนุทวีปตามสโลแกนที่เขาโฆษณาจริง ๆ คือ Incredible India! คือน่าพิศวงอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่รู้เขาอยู่กันได้ยังไง คนจนเยอะแต่คนรวยก็ไม่น้อย เหมือนกับว่านรกขุมลึกและสวรรค์ชั้นสูงในอินเดียมีฝาบ้านติดกัน
ถ้าว่าถึงสิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกของอารยธรรมจากอดีต ผมเห็นว่าอินเดียร่ำรวยมาก หลายครั้งที่ผมไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้ ได้รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในอดีตเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว หรืออาจจะหลายพันปีด้วยซ้ำ
ต่อคำพูดที่ว่าภาษาอังกฤษของคนอินเดียดี ความเห็นของผมคือ Yes and No เพราะผมเจอมาทั้ง 2 แบบ....
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปต่อรถไฟที่ชานชาลาแห่งหนึ่งในจังหวัดบ้านนอกของเขาซึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว ผมซื้อตั๋วรถไปและถามนายสถานีว่า รถไฟขบวนที่ผมกำลังรอขึ้นจะเข้าที่ Platform A or B? นายท่าแขกบอกว่า A or B ผมก็ถามย้ำไปว่า นั่นนะซี มัน A หรือ B ล่ะ? อาบังก็ยังยืนยันตอบอย่างไม่รับผิดชอบอยู่อย่างเดิมว่า A or B ผมชักร้อนใจเพราะชานชาลา A กับ B นี่มันอยู่ห่างกันเยอะ ถ้าไปรอผิด platform และย้อนกลับคงไม่ทันและตกรถแน่ เอ๊ะ ผมนึกในใจ ทำไงดีวะ ผมเลยเดินไล่ถามผู้โดยสารคนอื่นซึ่งมีแต่แขกทั้งนั้นไม่มีฝรั่งหลงให้เห็นแม้แต่คนเดียว ว่าใครจะไปยังเมืองที่ผมจะไปบ้าง เดินถามตั้งแต่หัวชานชาลาจนเกือบถึงท้ายชานชาชา แปลกไหมครับที่ใคร ๆ ก็พูดว่าแขกพูดภาษาอังกฤษเก่ง แต่ที่ชานชาลาในวันนั้นผมไม่เจอแขกที่พูดภาษาอังกฤษได้แม้แต่คนเดียว น่าชื่นใจที่มีแขกรุมเข้ามาจะช่วยเหลือหลายคนแต่ก็เหลวเพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นถ้าใครบอกว่าแขกพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน ผมขอตอบ No
แต่วันนั้นผมโชคดีครับ เกือบจะหมดหวังอยู่แล้วก็ไปถึงท้ายชานชาลาเจอพระลามะรูปหนึ่ง เมื่อถามก็ได้ความว่า ให้รอที่ platform นี้แหละ ท่านก็จะไปลงที่สถานีหน้าที่เดียวกับที่ผมจะไป ผมเล่าให้ท่านฟังแล้วรำพึงว่า นี่ถ้าไม่เจอท่านผมจะทำยังไง ท่านตอบอย่างสงบว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล ถ้าไม่เจอท่านผมก็ต้องเจอคนอื่นที่ช่วย และท่านก็สรุปว่า "It is your karma." มันเป็นกรรมของท่าน ผมก็เลยได้สัจจธรรม และอีกเดี๋ยวเดียวรถไฟขบวนที่รอก็มาถึง
ส่วนที่ต้องตอบ Yes เพราะภาษาอังกฤษของคนอินเดียดีนั้น อันนี้มีตัวอย่างเยอะแยะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าร่วมประชุมเดียวกับแขก เขามักจะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีทั้งในการพูดและการเขียน
ถ้าว่าในภาพรวมทั้งประเทศ ผมเชื่อว่าภาษาอังกฤษของคนอินเดียดีมากถึงขั้นพลิกแพลงเล่นคำกับภาษาอังกฤษได้ ผมเคยไปเที่ยวเมืองกังต็อกแคว้นสิกขิมของอินเดีย ตอนนั่งรถผ่านถนนหลวงผมเจอป้ายเตือนคนขับรถโดยประมาท หลายข้อความไพเราะหรือน่าขบขัน น่าเสียดายข้อความที่ผมจดไว้หายไปแล้ว วันนี้ผมลองเข้าไปค้นในเน็ต ก็เจอป้ายทางหลวงเตือนคนขับรถเร็วคล้ายกับที่ผมเคยเจอ จึงขอนำมาฝาก และนี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงว่า ภาษาอังกฤษของคนอินเดียอยู่ในระดับดีครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เชิญชมข้างล่างนี้ได้เลยครับ...
Make love not war but nothing while driving
ให้ make love อย่า make war แต่อย่า make ทั้ง love และ war ตอนขับรถ
เล่นคำ make love, make war, make nothing
*
Live for your today drive for your tomorrow
อยู่เพื่อตัวเองในวันนี้ ขับเพื่อตัวเองในวันพรุ่งนี้
อย่าขับชนิดที่ไม่เหลือชีวิตรอดไปขับในวันพรุ่งนี้
*
Mind your breaks or break your mind
ควรจะ Mind your breaks ไม่อย่างนั้นจะ break your mind
เป็นการเล่นคำ mind ตัวแรก =ระวัง mind ตัวหลัง = ใจ berak ตัวแรก = ที่ห้ามล้อ break ตัวหลัง เป็นคำกริยา แปลว่า ทำให้แตก
*
Be slower on the earth than quicker to eternity
ให้ช้าไว้ในโลก ดีกว่าเร็วไวไปนิรันดร์ (ไปตาย)
*
Hospital ceiling are boring to look at avoid accident
เพดานห้องโรงพยาบาล(นอน)มองดูแล้วน่าเบื่อนะ อย่าให้เกิดอุบัติเหตุดีกว่า
เล่นคำ ceiling กับ boring
*
Accident begins where aletness ends
อุบัติเหตุเริ่ม เมื่อ ความตื่นตัวหยุด
เล่นคำว่า accident กับ alertness ซึ่งขึ้นต้นด้วยตัว A เหมือนกัน
และนำคำที่มีความหมายตรงกันข้ามมาเล่น คือ begin กับ end
*
Do not be rash and end in crash
อย่าวู่วามจนลงท้ายด้วยรถชนกัน
เล่นคำสัมผัสสระ คือ rash กับ crash
*
This is highway not a runway
อย่าใช้ highway (ถนนหลวง)เป็น runway (คือ ทางรันเวย์ของเครื่องบิน ที่ขับอย่างรวดเร็วเพื่อนำเครื่องขี้น)
*
Drive like hell & you'll be there
ถ้าแปลตามใจผมก็ต้องแปลว่า ขับเร็วยังกะรีบไปนรก เดี๋ยวก็ได้ไปจริง ๆ หรอก
*
Be gentle on my curves
อ่อนโยนต่อส่วนโค้งของฉัน
คือเตือนว่า ถึงเวลาตีโค้งอย่าขับเร็วนัก เดี๋ยวจะแหกโค้ง
**
SOURCE:
http://www.slideshare.net/debasish/indian-highways-road-signs