แนะนำชุด Dork Diaries
สวัสดีครับ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมไปงานหนังสือ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2017 ที่เมืองทองธานี ปากเกร็ด นนทบุรี และเห็นหนังสือชุด Dork Diaries ซึ่งจนถึงวันนี้มีทั้งหมด 11 เล่ม หนังสือชุดนี้ออกแนวเป็นไดอะรี่ภาษาอังกฤษที่เด็กเขียน คล้าย ๆ กับชุด Diary of a Wimpy Kid ที่ผมเคยนำเสนอในเว็บนี้เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยทั้ง 2 ชุดต่างก็เป็นหนังสือขายดีระดับโลก
เมื่อผมกลับถึงบ้านก็ค้นหา eBook ฟรีที่อาจมีให้ดาวน์โหลด แต่ก็หาไม่เจอ และก็ไม่ผิดหวังเพราะท่านเดิมที่เคยให้ไฟล์ชุด Diary of a Wimpy Kid ก็ช่วยหาชุด Dork Diaries ให้อีก ขอบคุณ →คุณน่อย Intouch Bcc มาก ๆ ครับ
ผมขอแนะนำไดอะรี่ภาษาอังกฤษชุด Dork Diaries สักนิดหน่อยนะครับ
Dork Diaries เป็นนิยายชุดเล่าเรื่องที่เขียนในรูปไดอะรี่ โดยผู้เขียนเป็นสาวน้อยคนหนึ่งอายุ 14 ปี ชื่อ Nikki Maxwell เธอเล่าเกี่ยวกับปัญหา ความรำคาญ ความตื่นเต้น เหตุการณ์ ฯลฯ ที่เธอพบในชีวิตประจำวัน เกี่ยวกับพ่อเม่ น้องสาว โรงเรียน เพื่อน นักเรียนชายในโรงเรียนเดียวกันที่เธอรู้สึกปิ๊ง (crush) ชื่อ Brandon Roberts, นักเรียนสาวคนดังของโรงเรียน ชื่อ Mackenzie Hollister ซึ่งเธอมีปัญหากระทบกระทั่งด้วย และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลานี้มี 11 เล่ม
ผมอ่านไปแล้วก็รู้สึกว่าสนุกดี
เชิญท่านดาวน์โหลดได้เลยครับ
→ เล่ม 1 • เล่ม 2 • เล่ม 3 • เล่ม 4 • เล่ม 5
→ เล่ม 6 • เล่ม 7• เล่ม 8 • เล่ม 9 • เล่ม 10 • เล่ม 11
♠ หรือถ้าจะดาวน์โหลดทีเดียวทั้ง 11 เล่ม ประมาณ 250 MB ก็ → คลิกที่นี่
แต่ผมอยากจะให้ความเห็นสักนิดหนึ่งสำหรับท่านที่ต้องการฝึกการอ่านภาษาอังกฤษ
ก็คือว่า สำหรับท่านที่อ่านภาษาอังกฤษได้คล่อง พอหยิบ Dork Diaries ขึ้นมาอ่าน ถ้ารู้สึกว่าสนุกดี ก็อ่านต่อไปได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าไม่สนุกก็เลิกอ่าน คนกลุ่มนี้ผมไม่เป็นห่วงเพราะทักษะการอ่านของเขาดีอยู่แล้ว
แต่ถ้าท่านเป็นคนอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม(1)หยิบขึ้นมาอ่านแล้วแทบไม่รู้เรื่อง ก็เลยวางและเลิกอ่าน หรือ กลุ่ม(2)หยิบขึ้นมาอ่านแล้วรู้เรื่องบ้าง แต่ส่วนที่ไม่รู้เรื่องก็เยอะ และต้องใช้สมาธิมากจึงเหนื่อยในการอ่าน ก็เลยวางและเลิกอ่านเช่นกัน ถ้าท่านอยู่ในกลุ่ม (1) หรือ (2) ผมก็อยากจะคุยกับท่านครับ
ก็คือว่า ศัพท์สำนวนในหนังสือเล่มนี้ ก็เป็นภาษาพูดโดยทั่วไป ไม่ใช่ภาษาวิชาการ, ไม่ใช่ภาษาเขียน, ไม่ใช่ภาษาข่าว พูดง่าย ๆ ก็คือฝรั่งหรือคนต่างชาติทั่วโลกที่พูดภาษาอังกฤษได้ เขาก็พูดโดยใช้ศัพท์สำนวนประมาณนี้แหละครับ เพราะฉะนั้น ถ้าท่านรู้สึกว่ามันยาก แต่มันเป็นภาษาในระดับที่เขาใช้กันจริง ๆ ถ้าคุ้นเคยกับมันจะมีประโยชน์มาก
ถ้าการฝึกอ่านภาษาอังกฤษเหมือนการกินอาหารที่ไม่เคยกินซึ่งต้องเริ่มด้วยการชิมรส ผมก็อยากจะบอกว่า ท่านอย่าชิมแค่ "ช้อน" แรก แต่ขอให้ชิม "ชาม" แรกทั้งชาม หรือก็คืออย่าอ่านแค่ "หน้าแรก" แต่ควรอ่าน "บทแรก" ทั้งบท หรือเล่มแรกทั้งเล่ม
ที่แนะอย่างนี้ก็เพราะว่า อาหารและหนังสือนั้นต่างกัน อาหารชิมช้อนแรกก็รู้รส แต่หนังสือดีที่ "สูง" สักนิดอาจจะต้องชิมมากสักหน่อยจึงจะรู้รส และรสเฝื่อนจากการอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องในย่อหน้าแรกๆ บ่อยครั้งที่มันกลายเป็นรสอร่อยเมื่ออ่านจบบทแรก และหนังสือในชุด Dork Diaries ก็อาจจะให้รสชาติเฝื่อนต้นแซบปลายทำนองนี้
ถ้าให้พูดถึงประโยชน์ของการอ่าน ท่านที่อ่านบทความของผมบ่อย ๆ ก็อาจจะรู้สึกว่าผมพูดซ้ำ ๆ ทุกครั้ง แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ คือ นอกจากเรื่องศัพท์ สำนวน ภาษา ที่ได้จากการฝึกอ่าน-ฝึกเดา-ฝึกตีความ เรายังได้ข้อมูล ความรู้ ความเพลิดเพลินจากเนื้อเรื่องที่เราอ่าน อย่างในชุด Dork Diaries นี้ เราก็จะได้รู้บรรยากาศในโรงเรียนมัธยมของฝรั่งผ่านการเล่าของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เขาเจอและเรื่องที่รู้สึกนึกคิด ซึ่งความรู้สึกหรือความคิดนี้เราอาจจะมองไม่เห็นชัดเมื่อมีคนนำหนังสือไปทำเป็นหนัง
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมขอพูดถึงประโยชน์ของนิยายสไตล์ไดอะรี่ Dork Diaries และ Diary of a Wimpy Kid ก็คือ ท่านสามารถดูแนวทางการฝึกเขียนไดอะรี่ (เป็นการฝึก English writing skill ) จาก 2 ชุดนี้ ทั้งการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และการบันทึกความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นในใจ ท่านอาจจะบอกว่าศัพท์ยาก แค่อ่านก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง จะให้จดจำลอกเลียนแบบไปเป็นแนวในการเขียนไดอะรี่คงไม่ไหวหรอก
ผมขอบอกว่า อย่าได้พูดออกแนวท้อแท้อย่างนั้นเลยครับ ถ้าเราอ่านไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุดก็จะเห็นว่า มันมีทั้งประโยคที่เราอ่านรู้เรื่องน้อย - อ่านรู้เรื่องกลาง ๆ - และอ่านรู้เรื่องมาก และยิ่งอ่านมาก ๆ ปริมาณของความรู้เรื่องก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามปริมาณของประโยคที่เราอ่าน "ปริมาณย่อมนำไปสู่คุณภาพ" ถ้าเราฝึกอย่างใจเย็นและตั้งใจ ใจเย็นเป็นหยิน ตั้งใจเป็นหยาง หยินหยางของการฝึกย่อมนำไปสู่ความสำเร็จ
สุดท้ายก็แถม 3 ลิงก์นี้ สำหรับท่านที่ต้องการอ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ ของ Dork Diaries ก่อน
- http://dorkdiaries.com/category/dorkworld/mybooks/ อ่านจากเล่ม 1 ล่างสุดขึ้นมา
- https://simple.wikipedia.org/wiki/Dork_Diaries
- https://en.wikipedia.org/wiki/Dork_Diaries
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th/