Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

ฝึกให้ "รู้" ศัพท์พื้นฐาน 2000 คำอย่างจริงจัง

listen  500- LDOCE
        ทุกคนรู้แล้วว่าศัพท์นั้นสำคัญ ถ้ารู้ศัพท์การจะอ่าน-ฟัง-พูด-เขียนภาษาอังกฤษก็ง่าย
        แต่คำว่า "รู้" มันหมายถึงอะไร? มันไม่ได้หมายถึงแค่รู้คำแปล เช่น book - หนังสือ, dog - สุนัข, chair - เก้าอี้, love - รัก ฯลฯ แต่มันหมายถึงว่า เมื่อเราไปอ่านเจอหรือได้ยินคำศัพท์ก็เข้าใจ, และเมื่อจะพูดหรือเขียนสื่อสารก็นำคำศัพท์มาใช้ผูกประโยคได้ และการจะฝึกให้สามารถ "เข้าใจ - ใช้เป็น" อย่างนี้ ก็ต้องอ่านและฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ และพยายามหาโอกาสนำศัพท์ที่เจอไปใช้พูดหรือเขียนบ่อย ๆ ถ้าได้ฝึกบ่อย ๆ ทั้งอ่าน-ฟัง-พูด-เขียนแบบนี้ การ "รู้" ศัพท์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
       ผมมี 2 เว็บข้างล่างนี้ที่ขอแนะนำ เขานำศัพท์พื้นฐานประมาณ 2000 คำมาให้ ฝึกเพื่อรู้ อย่างจริงจัง
เว็บที่ 1

        →    ลิงก์ 1 หรือ ลิงก์ 2
       เป็นศัพท์ 2000 คำที่ Longman Dictionary จัดทำขึ้น เมื่อท่านคลิกเข้าไปแล้วให้ศึกษาแต่ละคำอย่างเต็มที่ โดยท่านจะเห็นคำศัพท์ที่ท้าย URL ตามตัวอย่าง 10 คำแรก เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว ก็ให้...
อ่าน :

       คืออ่านทั้งความหมาย (definition) และประโยคตัวอย่าง และอื่น ๆ ซึ่งมีให้อ่าน
ฟัง :

       ให้คลิกไอคอนรูปลำโพงที่ท้ายคำศัพท์ เพื่อฟังเสียงอ่านคำศัพท์เป็นคำ ๆ และคลิกไอคอนที่หน้าประโยคตัวอย่าง เพื่อฟังเสียงอ่านทั้งประโยค ฟังซ้ำหลาย ๆ ครั้งจนชินหู - คุ้นหู โดยสังเกตการลงเสียงหนัก-เบา, ขึ้น-ลง, เบา-ค่อย นี่คือการให้โอกาสแก่หูทั้ง 2 ข้างของเราในการฝึก และก็คือการเจอกับฝรั่งตัวจริงโดยไม่ต้องเห็นตัว
พูดตาม :

       เมื่อได้ฟังแล้วต้องเปล่งเสียงหรือพูดตามเสียงดัง ๆ ออกมาให้ตัวเองได้ยิน จนชินปาก ไม่ใช่ออกเสียงในใจโดยไม่มีใครได้ยิน อย่าลืมว่าตอนที่เราคุยกับคนต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษ เราต้องพูดออกเสียงให้เขาได้ยิน ไม่ใช่พูดในใจซึ่งเขาไม่มีทางได้ยิน เพราะฉะนั้นก็ฝึกพูดตอนนี้แหละ
เขียน :

       หลังจากฝึกอ่าน-ฟัง-พูดตาม จนคุ้นตา-คุ้นหู-คุ้นปากแล้ว ถ้ายังไม่หมดแรง ก็ลองคลิกฟังโดยตาไม่ต้องอ่าน ฟังแล้วก็เขียนประโยคนั้นลงกระดาษ นี่คือการฝึกการสะกดคำ (spelling) และก็ฝึก listening - writing ไปพร้อม ๆ กัน
       ลองฝึกตามแนวที่ผมแนะนี่แหละครับ รับรองว่าดีแน่ ๆ ท่านจะไล่ฝึกตั้งแต่คำแรกเรื่อยไปจนถึงคำสุดท้าย หรือจะกระโดดไป-กระโดดมา เลือกฝึกคำที่ท่านสนใจก็ได้ตามอัธยาศัย


เว็บที่ 2
ลิงก์ 1:

       มีศัพท์อยู่ 11 เล่ม ๆ ละ 200 คำ ศัพท์ไม่ได้เรียงจาก A → Z แต่จะเรียงตามความบ่อยที่เจอ
→ http://www.skesl.com/vocabulary/books.aspx 
       หรือท่านจะคลิก Search by Letter หรือ Search by Word (พิมพ์คำที่ต้องการศึกษา) ก็ได้
ลิงก์ 2 :

       มีศัพท์อยู่ 8 list หรือ 8 กลุ่มให้ท่านเลือกศึกษา, แต่ละกลุ่มจะเรียงตามความบ่อยที่เจอ จากบ่อยมาก→ บ่อยน้อย
http://www.skesl.com/vocabulary/english-vocabulary-list.aspx 
      ทั้ง 2 ลิงก์นี้มีวิธีการฝึกเหมือนกัน คือ ... ดูภาพข้างล่างนี้
 How to UseImprove with Example Sentences
อ่าน :

       เขาจะบอกว่าศัพท์นั้นเป็นคำอะไร เช่นเป็น v (verb), n (noun) หรือ adj (adjective) ถ้าคำ ๆ หนึ่ง เป็นหลายอย่าง ก็จะแสดงทีละอย่าง ๆ ถัดลงไปข้างล่าง
       เว็บนี้แสดงประโยคตัวอย่างควบคู่กับแสดง Collocation (คำที่มักใช้คู่กัน) เช่นคำว่า improve ตามตัวอย่างนี้ ก็จะแสดง collocation ซึ่งเป็น adverb, verb และ noun ที่มักจะใช้คู่กับ improve → คลิกดู
ฟังและพูดตาม :

       มีจุดให้ท่านคลิกฟังและพูดตามอยู่ 5 จุด ตามภาพข้างบน
1 - เสียงอ่านคำศัพท์
2 - เสียงอ่านความหมาย
3 - เสียงอ่าน คำศัพท์, ความหมาย, และประโยคตัวอย่าง ทั้งหน้า
4 - เสียงอ่านประโยคตัวอย่าง ทั้งหน้า และจะหยุดนิดหน่อยเมื่อจบแต่ละประโยค ให้เราได้ฝึกพูดตาม
5 - คลิกแต่ละประโยค เพื่อฟังเสียงอ่านเฉพาะประโยคนั้น และฝึกพูดตาม
       เอาละครับ ผมขอแนะนำเพียงเท่านี้ ขอให้ท่านฝึกอย่างจริงจังเข้มแข็งนะครับ เชื่อว่าจะช่วยให้ท่าน "รู้" ศัพท์มากขึ้นทีเดียว ท่านจะฝึกกับเว็บที่ 1 หรือเว็บที่ 2 ก็ตามสะดวกครับ
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th 

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com