ขอพูดอีกครั้งเรื่องคนไทยกับภาษาอังกฤษ
คลิกภาพเพื่ออ่านเรื่องราวน่าประทับใจในการฟิตภาษาอังกฤษของหนุ่มถีบ 3 ล้อชาวจีนคนนี้
เท่าที่ผมสังเกต คนที่ทำงานซึ่งมีทักษะภาษาอังกฤษใช้งานได้ มักมาจากครอบครัวที่พ่อแม่ฐานะดี สามารถส่งลูกเข้าโรงเรียนอินเตอร์, หรือไปเข้าคอร์ส/เข้าแคมป์/เข้าเรียนต่างประเทศ เด็กพวกนี้ต่อให้ขยันอย่างแกน ๆ พอจบก็มักมีทักษะภาษาอังกฤษติดตัวมามากหรือบ้าง แม้ทิ้งแต่เมื่อฟิตก็มักฟื้นได้ไม่ยาก ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้รวยอย่างกลุ่มแรก เข้าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยธรรมดา ๆ แต่สนใจและขยัน ก็เก่งได้เหมือนกัน อาจจะเก่งเท่าหรือเก่งกว่าคนจบนอกด้วยซ้ำ
คราวนี้มาดูเด็กทั่วไปที่ขยันพอกะเทิน ระบบการสอนในโรงเรียนก็พอกะเทิน เกรดที่ได้จึงพอกะเทินเช่นกัน พอได้งานทำถ้าในที่ทำงานต้องการคนเก่งอังกฤษ เด็กกลุ่มนี้มักไม่ได้อยู่แถวหน้าที่ถูกคัดเลือก เพราะเด็กกลุ่มแรกเอาไปกินหมด
แต่โลกยุคเน็ตมันเปลี่ยนมาก-เปลี่ยนเร็ว-เปลี่ยนทุกเรื่อง และทักษะภาษาอังกฤษก็แซมเข้าไปในทุกสิ่ง เด็กซึ่งตอนนี้เป็นผู้ใหญ่มีงานทำแล้ว ที่ไม่เก่งและไม่เคยแยแสภาษาอังกฤษ ก็อยากจะเก่งบ้าง คำถามในฟอรั่มต่าง ๆ ก็มักมาจากคนกลุ่มนี้แหละ เช่น
- ทำยังไงให้เก่งภาษาอังกฤษเร็ว ๆ
- ไปเรียนที่ไหนให้พูดได้คล่องเร็ว ๆ
- ฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่อง ทำไงดี
- สอบโทอิค/โทเฟล ได้คะแนนน้อย จะไปสอบใหม่ฟิตยังไงให้สอบผ่าน
- เจ้านายให้ต้อนรับแขกต่างประเทศเดือนหน้า พูดได้ไม่คล่องทำไงดี
- ไปเข้าคอร์สเรียนพูดอังกฤษมาแล้ว แต่ก็ยังงั้น ๆ ชักเสียดายเงิน
- อยากไปเที่ยวเมืองนอกกับทัวร์ แต่ก็อยากเที่ยวเองมากกว่า แต่กลัวสื่อสารกับคนต่างชาติไม่รู้เรื่อง
- ฯลฯ
ถ้าไม่คิดมากและหาคำตอบเร็ว ๆ ให้คำถามเหล่านี้ ก็ตอบได้ทันทีว่า เข้าไปที่ยูทูปซี มีเรื่องให้เรียนเป็นล้าน หรือตามเว็บต่าง ๆ ก็มีเป็นกะตั๊ก ๆ จะเรียนอะไรก็เลือกเอาเลย ไม่ต้องเสียเงินด้วย เรียนไม่เท่าไหร่ก็น่าจะเก่ง
แต่แม้เน็ตจะเข้ามาเมืองไทยได้ 30 ปีแล้ว แต่คำถามข้างต้นก็ยังมีซ้ำซาก และคำตอบก็ซ้ำซากเช่นกัน และรายงานการสำรวจอย่างเป็นทางการทุกปีเกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษคนไทยก็ซ้ำซากคือเก่า – เราอยู่ในกลุ่มเกือบติดบ๊วย
World Ranking :→ https://www.ef-danmark.dk/epi/
อย่างนี้จะให้ผมตีความว่ายังไง เพราะแม้แต่เวียดนามซึ่งระดับเศรษฐกิจก็น่าพอ ๆ กับไทย ยังอยู่ในกลุ่ม Moderate เลข 34 แต่ Thailand อยู่ในกลุ่ม Low เลข 53 ตามหลังเขา 20 อันดับ
คำตอบก็คือ ผมไม่ตีความครับ เพราะมีคนอธิบายเรื่องนี้ไว้เยอะมาก และทุกคำอธิบายก็มักจะชี้นิ้วโบ้ยความผิดไปยังสิ่งนั้น-สิ่งนี้ หรือคนนั้น-คนนี้ อ่านแล้วใจเหี่ยว
แต่ผมขออนุญาตพูดสั้น ๆ หน่อยเดียว คือ ถ้าท่านหวังจะฟิตให้อังกฤษของท่านเฟิร์มกว่าเดิม ก็พอทำได้ครับ แค่หาภาษาอังกฤษมาอ่านและฟังทุกวัน
คำแนะนำของผมสั้นนิดเดียวแค่นี้แหละครับ แต่จริงใจที่สุด
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th
เรื่องเก่าที่เขียนไว้