Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

เมื่อหลวงพ่อชาพูดเรื่องตายแล้วเกิดใหม่

chah line drawing
        เท่าที่เคยอ่านพบ หลวงพ่อชาท่านสอนว่าไม่ควรไปสนใจเรื่องชาติหน้า ถ้าทำปัจจุบันให้ดีทุกอย่างมันก็ดีเอง และเรื่องชาติหน้านั้น ถึงบอกว่ามีหรือไม่มีมันก็พิสูจน์ให้เห็นจริงไม่ได้ ควรปฏิบัติในเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนก่อนดีกว่า
        ==> อ่านที่นี่ครับ 
       แต่ครั้งหนึ่งผมไปที่ วัดบุญญาวาส จ.ชลบุรี  ซึ่งเจ้าอาวาส คือ พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต ลูกศิษย์หลวงพ่อชา ผมได้เปรยกับท่านอาจารย์ตั๋นว่า ไม่เห็นหลวงพ่อชาพูดเรื่องชาติหน้าเลย ท่านอาจารย์ตั๋นตอบว่า ทำไมจะไม่ได้พูด การที่ท่านตอบอย่างนี้ ผมเข้าใจว่า ในช่วงชีวิตที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับหลวงพ่อชาที่วัดหนองป่าพง หลวงพ่อชาคงได้พูดเรื่องนี้กับพระลูกศิษย์ในวัดบ้าง แต่สิ่งที่ท่านสอนอาจจะไม่ได้มีการนำมาเผยแพร่เป็นกิจจะลักษณะ
      และวันนี้ผมบังเอิญได้เจอคำสอนของหลวงพ่อชาเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ
 ==> It can be done คลิกอ่านที่นี่ หรือ  ที่นี่
      ถ้าท่านต้องการอ่านที่ย่อหน้านั้นโดยตรงก็เริ่มที่บรรทัดที่บอกว่า  It is like this. Throughout all our becoming and birth,......

=> อ่านที่นีครับ

       หรือฟังเสียงอ่านเป็นภาษาอังกฤษก็ ==> เริ่มที่คลิป นาทีที่ 27
        เสียดายที่คำสอนเรื่องนี้ไม่ได้บันทึกวันเดือนปีที่หลวงพ่อเทศน์
        นี่เป็นการตีความของผมนะครับว่า หลวงพ่อชาพูดเรื่องตายแล้วเกิดชัด ๆ คือตายแล้วไปเกิดเป็นคนเราตัวเป็น ๆ นี่แหละ ไม่ใช่ตาย-เกิดในลักษณะความรู้สึกนึกคิดทางจิตใจซึ่งเป็นคำสอนที่เราได้ยินบ่อย ๆ

       สรุปง่าย ๆ ก็คือ การเกิด-ตาย เป็นจริงได้ในทั้ง 2 ความหมาย คือ (1)  การมีสติรู้เห็นการเกิด-ดับในจิตใจ ให้เห็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา จนค่อย ๆ ปล่อยวางได้   นี่เป็นเรื่องที่ต้องสนใจก่อน ต้องปฏิบัติเป็นนิตย์ (2) การเกิด-ดับทางร่างกายก็เป็นเรื่องจริง ถ้ากิเลสยังไม่สิ้น นี่เป็นเรื่องที่ยังไม่ต้องสนใจก็ได้  แต่หลวงพ่อชาท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่เน้น และแทบไม่ได้พูดถึง
        ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ เพราะนี่เป็นเพียงความเข้าใจส่วนตัว อาจจะผิดก็ได้

Ajahn Chah300

        ตรงนี้แหละครับ ↓↓↓↓↓ ที่ผมเจอว่าท่านพูดถึงเรื่อง ตายแล้วเกิดใหม่ตรง ๆ 

          It is like this. Throughout all our becoming and birth, all of us are so
terribly anxious about so many things. When there is separation, when
there is death, we cry and lament. I can only think, how utterly foolish
this is. What are we crying about? Where do you think people are going
anyhow? If they are still bound up in becoming and birth they are not
really going away. When children grow up and move to the big city of
Bangkok they still think of their parents. They won't be missing someone
else's parents, just their own. When they return they will go to their
parents' home, not someone else's. And when they go away again they
will still think about their home here in Ubon. Will they be homesick for
some other place? What do you think? So when the breath ends and we
die, no matter through how many lifetimes, if the causes for becoming
and birth still exist, the consciousness is likely to try and take birth in a
place it is familiar with. I think we are just too fearful about all of this.
So please don't go crying about it too much. Think about this. 'Kammam.
satte vibhajati' kamma drives beings into their various births - they don't
go very far. Spinning back and forth through the round of births, that is all,
just changing appearances, appearing with a different face next time, but
we don't know it. Just coming and going, going and returning in the loop
of samara, not really going anywhere. Just staying there. Like a mango
that is shaken off the tree, like the snare that does not get the wasps' nest
and falls to the ground; it is not going anywhere. It is just staying there.
So the Buddha said, 'Nibbana paccayo hotu ': let your only aim be Nibbana.
Strive hard to accomplish this; don't end up like the mango falling to the
ground and going nowhere.
พิพัฒน์

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com