Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

กลุ่มที่ 8: ประโยคที่ 351 - 400

 

 ฝึกอ่าน – ฝึกแปล ทีละประโยค

♥ กลับหน้าหลัก  คลิก

+++

 

351. He wanted to find a job.
เขาต้องการหางานทำ
352. He wanted to talk to his boss.
เขาต้องการพูดกับเจ้านาย
353. He went to the post office.
เขาไปที่ที่ทำการไปรษณีย์
354. I am too busy to talk today.
วันนี้ฉันยุ่งเกินกว่าที่จะพูดคุย
355. I bought a blue car today.
วันนี้ฉันซื้อรถคันสีฟ้า
356. I came to New York today for my interview.
ฉันมาที่นิวยอร์กเพื่อสัมภาษณ์วันนี้
357. I drive a blue car to work.
ฉันขับรถคันสีฟ้าไปทำงาน
358. I have three children.
ฉันมีลูก 3 คน
359. It is a good job to start with.
มันเป็นงานที่ดีที่เหมาะจะเริ่มต้น
360. She cooks for her friends.
เธอทำอาหารให้เพื่อนๆ ทาน
361. She needs to buy some new clothes.
เธอต้องการซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่บางชุด
362. She wants to live near her brother.
เธอต้องการอาศัยอยู่ใกล้พี่ชายของเธอ
363. They buy many things at the store.
พวกเขาซื้อของมากมายที่ร้านค้า
364. They live together in a big house.
พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่
365. They work well together.
พวกเขาทำงานเข้าขากันดี
366. You drink too much coffee.
คุณดื่มกาแฟมากเกินไปแล้ว
367. We have a very clean house.
พวกเรามีบ้านที่สะอาดมากๆ
368. We are very smart to learn this.
พวกเราฉลาดมากพอที่จะเรียนรู้สิ่งนี้
369. See you later. Keep in touch.
แล้วเจอกันนะ ไว้ติดต่อกันอีกนะ
370. I used to take a walk in the early morning.
ฉันเคยเดินเล่นในตอนเช้าตรู่
371. He used to live in my neighborhood.
เขาเคยอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกับฉัน
372. Did you use to go fishing with friends?
คุณเคยไปตกปลากับเพื่อนๆ ไหม
373. We have known each other for 6 years.
พวกเรารู้จักกันมา 6 ปีแล้ว
374. It has been a long time since I last came here.
มันนานมากแล้วนับแต่ที่ฉันมาที่นี่ครั้งล่าสุด
375. They've been working on this project since last year.
พวกเขาทำงานในโครงการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
376. The movie began as soon as we got there.
หนังเริ่มทันทีที่พวกเราไปถึง
377. When I arrived at the station, the train had already left.
รถไฟได้ออกไปแล้ว เมื่อฉันมาถึงสถานี
378. Can you do me a favor, please?
คุณได้โปรดช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม
379. Could you tell me something about...?
คุณช่วยเล่าบางสิ่งเกี่ยวกับ...ได้ไหม
380. Let's take a break, you look tired.
หยุดพักกันเถอะ คุณดูเหนื่อยแล้ว
381. Please give my best regards to your family.
โปรดฝากความปรารถนาดีของฉันไปยังครอบครัวของคุณด้วย
382. I am on your side.
ฉันอยู่ข้างคุณ
383. You are kidding me?
เธอล้อฉันเล่นใช่ไหม
384. Practice makes perfect.
การฝึกฝนจะทำให้สมบูรณ์แบบ
385. Never give up!
อย่าได้ยอมแพ้
386. That's a good idea.
นั่นเป็นความคิดที่ดี
387. It doesn't make sense.
มันฟังไม่ขึ้นเลย
388. Don't let chances pass by.
อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านพ้นไป
389. I agree with your opinion.
ฉันเห็นด้วยกับความคิดของคุณ
390. I have heard its name for many times.
ฉันได้ยินชื่อมันมาหลายครั้งแล้ว
391. Action speaks louder than word.
การกระทำส่งเสียงดังกว่าคำพูด
392. Thanks for your encouragement.
ขอบคุณสำหรับกำลังใจของคุณ
393. I'm sure I will do the work to the best of my ability.
ฉันแน่ใจว่าฉันจะทำงานนี้อย่างสุดความสามารถของฉัน
394. We must take action before it is too late.
พวกเราต้องดำเนินการก่อนที่มันจะสาย
395. What's your favorite dish?
อาหารจานไหนที่คุณชอบ
396. The more you speak, the better you master it.
ยิ่งคุณพูดมากเท่าใด คุณยิ่งเก่งกาจมากเท่านั้น
397. What will you do for relaxation this holiday?
คุณจะทำอะไรเป็นการพักผ่อนในวันหยุด
398. How can I get in touch with you?
ฉันจะติดต่อกับคุณได้อย่างไร
399. It's a long story, I will tell you later.
เรื่องมันยาว ฉันจะเล่าให้คุณฟังทีหลัง
400. I graduated three years ago.
ฉันสำเร็จการศึกษา 3 ปีมาแล้ว

กลุ่มที่ 7: ประโยคที่ 301 - 350

 ฝึกอ่าน – ฝึกแปล ทีละประโยค

♥ กลับหน้าหลัก  คลิก

+++

 

301. I'm two years younger than my sister.
ฉันอายุอ่อนกว่าพี่สาวฉันสองปี
302. My elder sister is one year older than me.
พี่สาวฉันแก่กว่าฉัน 1 ปี
303. He is the youngest in the family.
เขาอายุน้อยที่สุดในครอบครัว
304. He looks much younger than he is.
เขาดูอ่อนกว่าที่เป็น
305. I came here when I was 20.
ฉันมาที่นี่ตอนอายุ 20 ปี
306. I started school at the age of 6.
ฉันเข้าโรงเรียนตอนอายุ 6 ขวบ
307. My mother is over 60 years old.
แม่ของฉันอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว
308. Most of them are less than 30.
พวกเขาส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 30 ปี
309. I guess he's about 30.
ฉันเดาว่าเขาอายุราว 30 ปี
310. She's going to be 40 next month.
เธอกำลังจะเข้า 40 ปีเดือนหน้านี้
311. They'll have a party for their 10th wedding anniversary.
พวกเขาจะจัดปาร์ตี้ครบรอบวันแต่งงานปีที่ 10
312. He's still a boy after all.
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงเป็นเด็กผู้ชายอยู่
313. When do you get up everyday?
คุณตื่นนอนเวลาใดทุกวัน
314. I usually get up at 8 o'clock.
ฉันมักจะตื่นตอน 8 โมง
315. Where do you have your lunch?
คุณไปทานอาหารเที่ยงที่ไหน
316. I have my lunch in a snack bar nearby.
ฉันทานอาหารเที่ยงที่ห้องทานอาหารว่างใกล้ๆ
317. What did you have for lunch?
คุณทานอะไรเป็นข้าวเที่ยง
318. What do you do at work?
คุณทำอะไรบ้างในที่ทำงาน
319. I answer telephone and do some typing.
ฉันรับโทรศัพท์และก็พิมพ์ดีดบ้าง
320. What time do you finish your work?
คุณทำงานเสร็จเมื่อไหร่
321. At 6 o'clock sharp.
6 โมงตรง
322. What do you do in your spare time?
คุณทำอะไรในยามว่าง
323. I like listening to pop music.
ฉันชอบฟังเพลงป๊อบ
324. When did you get up yesterday morning?
เมื่อเช้าวานนี้คุณตื่นนอนตอนไหน
325. I woke up at 7 and got up right away.
ฉันตื่น 7 โมงและลุกขึ้นทันที
326. I heard the clock, but I didn't get up until 9.
ฉันได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกแต่ไม่ได้ลุกขึ้นจนถึง 9 โมง
327. I hurried to my office.
ฉันรีบรุดไปที่ทำงาน
328. I had my breakfast on the way.
ฉันทานข้าวเช้าระหว่างทาง
329. I was 5 minutes late.
ฉันมาสายไป 5 นาที
330. I had lunch with a friend of mine.
ฉันทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนคนหนึ่ง
331. I finished my work at 6 pm.
ฉันทำงานเสร็จตอน 6 โมงเย็น
332. I stayed and did some extra work.
ฉันอยู่ที่ทำงานและทำงานพิเศษบางอย่าง
333. The TV programs were really boring.
รายการโทรทัศน์น่าเบื่อจริงๆ
334. So I went to bed very early.
ดังนั้นฉันจึงเข้านอนแต่หัวค่ำ
335. I didn't sleep well.
ฉันหลับไม่สนิทนัก
336. It's been a whole year since I last saw you.
เกือบปีแล้วนับจากที่ฉันเจอคุณล่าสุด
337. How have you been these day?
คุณสบายดีไหม
338. Not too bad.
ก็ไม่เลวนัก
339. But you sound so sad.
แต่คุณฟังดูเศร้ามาก
340. Yes, I lost my cat yesterday.
ใช่ฉันทำแมวหายเมื่อวานนี้
341. Oh, I'm sorry to hear that.
โอ เสียใจด้วยที่ทราบ
342. Have you seen Kate lately?
คุณได้เจอเคทเมื่อไม่นานมานี้ไหม
343. No, I have no contact with her.
ไม่ ฉันไม่ได้ติดต่อกับเธอเลย
344. I heard she got married last week.
ฉันได้ยินว่าเธอแต่งงานแล้วสัปดาห์ที่แล้ว
345. Oh, how nice.
โอ ดีจัง
346. Sorry, I've got to go now.
ขอโทษนะ ฉันต้องไปแล้วตอนนี้
347. I am always tired after work.
ฉันเหน็ดเหนื่อยเสมอหลังเลิกงาน
348. Can you come to my office tomorrow morning?
คุณจะมาที่ที่ทำงานของฉันพรุ่งนี้เช้าได้ไหม
349. The important thing is to use it.
สิ่งสำคัญก็คือการใช้มัน
350. He knows how to ride a bike.
เขาทราบวิธีขับมอเตอร์ไซต์

 

 

กลุ่มที่ 5: ประโยคที่ 201 - 250

 

 ฝึกอ่าน – ฝึกแปล ทีละประโยค

♥ กลับหน้าหลัก  คลิก

+++

 

201. Let her leave.
ปล่อยเธอไป
202. I have no idea how to open this.
ฉันไม่ทราบวิธีเปิดสิ่งนี้
203. It is I who am sorry. This is my fault.
เป็นฉันที่ต้องขอโทษ นี่เป็นความผิดของฉัน
204. I'll tell him in person.
ฉันจะบอกกับเขาเป็นการส่วนตัว
205. Are you with me or against me?
คุณอยู่ข้างฉันหรือต่อต้านฉัน
206. I must see you immediately.
ฉันต้องพบคุณเดี๋ยวนี้
207. Who is this? Do you know what time is it?
ใครกันนี่ คุณทราบไหมเวลาเท่าไหร่แล้ว
208. I have something you need to see.
ฉันมีบางสิ่งที่คุณต้องดู
209. I can't discuss it on the phone.
ฉันไม่สามารถจะสาธยายมันทางโทรศัพท์ได้
210. I tried to tell you before.
ฉันพยายามบอกกับคุณมาก่อนแล้ว
211. How did you find me?
คุณหาฉันเจอได้อย่างไร
212. He tried to gather his thoughts.
เขาพยายามที่จะรวบรวมความคิดของเขา
213. We'll be there in an hour.
พวกเราจะไปที่นั่นในอีก 1 ชั่วโมง
214. I'm embarrassed to admit that I've never heard of it.
ฉันอายที่จะยอมรับว่าฉันไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
215. How do you all communicate?
พวกคุณทั้งหมดติดต่อกันได้อย่างไร
216. How did you know my name?
คุณทราบชื่อฉันได้อย่างไร
217. It was no use.
มันไม่มีประโยชน์
218. I'm a little late.
ฉันสายนิดหน่อย
219. I got your message. What's up?
ฉันได้รับข้อความของคุณ มีอะไรเหรอ
220. I can't ask you out for breakfast?
ฉันไม่สามารถชวนคุณออกมาทานข้าวเช้าได้หรือไง
221. How are things with you?
คุณสบายดีไหม
222. She is obviously a busy woman.
เธอเป็นผู้หญิงที่มีธุระยุ่งอย่างเห็นได้ชัด
223. He called me about a half hour ago.
เขาโทรหาฉันราวครึ่งชั่วโมงมาแล้ว
224. He is impressed with your work.
เขาประทับใจกับงานของคุณ
225. So what did he want?
ถ้างั้นเขาต้องการอะไรล่ะ
226. I obviously can't refuse him.
ฉันไม่สามารถปฏิเสธเขาได้จริงๆ
227. What do you recommend I do?
คุณจะแนะนำให้ฉันทำอะไรดี
228. I still can't believe it.
ฉันยังคงไม่อยากจะเชื่อมันเลย
229. There's really no need to.
มันไม่จำเป็นจริงๆ
230. I've got limited time here.
ฉันมีเวลาจำกัดที่นี่
231. So let's get to business.
งั้นมาเข้าเรื่องธุรกิจกันเถอะ
232. That's actually what he said.
นั่นแหล่ะคือสิ่งที่เขาพูดจริงๆ
233. He is indeed a dangerous man.
เขาเป็นผู้ชายที่น่าอันตรายจริงๆ
234. Are you kidding?
คุณล้อเล่นใช่ไหม
235. I've heard nothing about it.
ฉันไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับมันเลย
236. Let's take a walk, shall we?
ไปเดินเล่นกันดีไหม
237. I'll speak to you shortly.
ฉันจะบอกกับคุณสั้นๆ
238. Any questions before we go?
มีคำถามอีกไหม ก่อนที่เราจะไป
239. You look nice this morning.
คุณดูดีมากเช้านี้
240. I'd like you to organize a meeting for me.
ผมอยากให้คุณจัดการประชุมให้หน่อย
241. Hi, I can hear you perfectly.
ไฮ ฉันได้ยินเสียงคุณชัดแจ๋วเลย
242. I'm in the car right now.
ฉันอยู่ในรถตอนนี้
243. I need you to pick me up and drop me off at…
ฉันอยากให้คุณมารับฉันและส่งฉันลงที่...
244. Are you on the street? It sounds so loud.
คุณอยู่บนถนนอยู่เหรอ เสียงดังมากเหลือเกิน
245. That's all for today!
เท่านี้แหล่ะวันนี้
246. Do you know where I put my glasses?
คุณทราบไหมว่าฉันวางแว่นตาไว้ที่ไหน
247. Are those books all yours?
หนังสือทั้งหมดนั่นของคุณหรือ
248. Who is the guy over there?
ผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นเป็นใครหรือ
249. I really don't know.
ฉันไม่ทราบจริงๆ
250. I have no idea about it.
ฉันไม่ทราบเกี่ยวกับมัน

 

กลุ่มที่ 6: ประโยคที่ 251 - 300

 ฝึกอ่าน – ฝึกแปล ทีละประโยค

♥ กลับหน้าหลัก  คลิก

+++

 

251. May I have your name?
ขอชื่อคุณหน่อยได้ไหม
252. Just call me Tom.
เรียกฉันว่าทอมก็พอ
253. Who is the lady in white?
ผู้หญิงในชุดขาวนั่นคือใครหรือ
254. Could you introduce me to her?
คุณช่วยแนะนำฉันกับเธอหน่อยได้ไหม
255. Let me introduce my friend to you.
ขอฉันแนะนำเพื่อนของฉันกับคุณหน่อย
256. Let me introduce myself.
ขอฉันแนะนำตัวเองหน่อย
257. What day is it today?
วันนี้คือวันอะไร
258. It's Monday today.
วันนี้คือวันจันทร์
259. What's the date today?
วันนี้คือวันที่เท่าไหร่
260. It's January the 15th, 2010.
วันนี้คือวันที่ 15 มกราคม 2010
261. What will you do during this weekend?
คุณจะทำอะไรช่วงวันหยุดนี้
262. Does the shop open at 9am on weekdays?
ร้านค้าเปิดเวลา 9 นาฬิกา ในวันทำงานใช่ไหม
263. It opens at 8 am on weekdays.
มันเปิดเวลา 8 นาฬิกาในวันทำงาน
264. But at 9 am on weekends.
แต่เปิดในเวลา 9 นาฬิกา ในวันหยุดสุดสัปดาห์
265. It's been five years since I last saw you.
เป็นเวลา 5 ปีแล้วนับแต่ที่ฉันเจอคุณครั้งสุดท้าย
266. Do you have any brothers or sisters?
คุณมีพี่ชาย/น้องชาย หรือพี่สาว/น้องสาวไหม
267. No, I'm a single son.
ไม่ ฉันเป็นลูกชายคนเดียว
268. My watch is five minutes fast.
นาฬิกาฉันเร็วไป 5 นาที
269. We must arrive there on time.
พวกเราต้องไปถึงที่นั่นตรงเวลา
270. There are only two minutes left.
มีเวลาเหลือแค่ 2 นาที
271. The flight is delayed.
เที่ยวบินนั่นเลื่อนเวลาออกไป
272. The meeting is put off.
การประชุมเลื่อนออกไป
273. When were you born?
คุณเกิดเมื่อไหร่
274. I was born on August 19th, 1969.
ฉันเกิดวันที่ 19 สิงหาคม 1969
275. Do you know the exact date?
คุณทราบวันที่ที่แน่นอนไหม
276. I’ll be back in 5 days.
ฉันจะกลับมาในอีก 5 วัน
277. Hello. Can I see Mr Green?
สวัสดีครับ ขอพบคุณกรีนได้ไหม
278. Do you have an appointment?
คุณนัดไว้หรือเปล่า
279. Sorry I don't.
ขอโทษครับไม่ได้นัด
280. Yes, at 3 pm.
ใช่ครับ เวลา บ่าย 3 โมง
281. Can you finish your work ahead of time?
คุณสามารถทำงานเสร็จก่อนเวลาได้ไหม
282. Sorry Mr Green can't see you now.
ขอโทษค่ะ คุณกรีนไม่สามารถพบคุณตอนนี้ได้
283. He's on the phone.
เขากำลังโทรศัพท์อยู่
284. Would you wait here for a minute?
คุณจะคอยอยู่ตรงนี้สักครู่ได้ไหม
285. Would you like something to drink?
คุณอยากดื่มอะไรสักหน่อยไหม
286. Mr Green, Mr Smith is here.
คุณกรีน คุณสมิทอยู่ที่นี่แล้ว
287. You may go in now.
คุณเข้าไปได้แล้วตอนนี้
288. How have you been these years?
คุณเป็นอย่างไรบ้างหลายปีมานี้
289. You've changed little.
คุณเปลี่ยนไปเล็กน้อย
290. Do you still remember that Christmas?
คุณยังคงจำคริสต์มาสนั้นได้ไหม
291. How long have you studied English?
คุณเรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้ว
292. He speaks English fluently.
คุณพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง
293. You speak English pretty well.
คุณพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก
294. My native language is Thai.
ภาษาถิ่นของฉันคือ ภาษาไทย
295. I have some difficulty in expressing myself.
ฉันมีความยากลำบากบ้างในการพูดอธิบายเกี่ยวกับตัวเอง
296. Your pronunciation is excellent.
การออกเสียงของคุณยอดเยี่ยม
297. How can I improve my spoken English?
ฉันจะสามารถปรับปรุงการพูดภาษาอังกฤษของฉันได้อย่างไร
298. What will you do this weekend?
คุณจะทำอะไรในวันหยุดสัปดาห์นี้
299. Do you like travelling?
คุณชอบการเดินทางท่องเที่ยวไหม
300. Yes, I like it a great deal.
ใช่ฉันชอบมันมากเลยทีเดียว

 

 

กลุ่มที่ 4: ประโยคที่ 151 - 200

 ฝึกอ่าน – ฝึกแปล ทีละประโยค

♥ กลับหน้าหลัก  คลิก

+++

 

151. I've got to do something.
ฉันต้องทำบางสิ่งบางอย่าง
152. Is this man a good enough friend?
ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีพอไหม
153. Money is the last thing this guy needs.
เงินเป็นสิ่งสุดท้ายที่ชายคนนี้ต้องการ
154. You're certain we can trust this man.
คุณแน่ใจนะว่าเราสามารถไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้
155. What is your business with him?
คุณมีธุระอะไรกับเขา
156. It's a private matter.
มันเป็นเรื่องส่วนตัว
157. I have a little problem.
ฉันมีปัญหานิดหน่อย
158. I need your help right away.
ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณเดี๋ยวนี้
159. Thank you for having us.
ขอบคุณที่ต้อนรับเรา
160. I realize it's quite late.
ฉันทราบดีว่ามันค่อนข้างดึกแล้ว
161. We'd like to talk to you about…
พวกเราอยากพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่อง...
162. We're not quite sure.
พวกเราไม่ค่อยแน่ใจนัก
163. How well do you know about this?
คุณรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีแค่ไหน
164. Not at all, really.
ไม่รู้เลย จริงๆ
165. Believe me, it's no mistake.
เชื่อฉัน ไม่มีพลาดแน่
166. You'd better explain yourself.
คุณควรจะอธิบายตัวเอง
167. You have not been honest with me.
คุณไม่ซื่อสัตย์กับฉัน
168. I'll handle this.
ฉันจะจัดการสิ่งนี้เอง
169. What happens to those people?
เกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านั้น
170. Where exactly are you?
คุณอยู่ที่ไหนกันแน่
171. Don't make a move.
อย่าเคลื่อนไหวนะ
172. I'll handle this personally.
ฉันจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง
173. Wait for me. That is an order.
คอยผมก่อน นี่คือคำสั่ง
174. That work is now done.
งานนั้นได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
175. I think I just figured something out.
ฉันคิดว่าฉันเพิ่งจะคิดอะไรออก
176. I'll tell you in a minute.
ฉันจะบอกกับคุณอีกสักประเดี๋ยวนี้แหล่ะ
177. I realize you have been given no choice.
ฉันเข้าใจว่าคุณไม่มีทางเลือกเลย
178. So what do you suggest?
ถ้างั้นคุณมีอะไรจะแนะนำหรือ
179. He has not yet told us his purpose.
เขายังไม่ได้บอกพวกเราถึงจุดประสงค์ของเขาเลย
180. There is no way for me to know that.
ไม่มีทางที่ฉันจะทราบเรื่องนั้น
181. I don't know what else I can tell you.
ฉันไม่ทราบว่ามีอะไรอีกที่ฉันจะบอกกับคุณได้
182. I'm late for an appointment.
ฉันสายสำหรับนัดหมายแล้ว
183. He will not give up easily.
เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
184. Neither of you has ever been there?
พวกคุณทั้งสองไม่เคยไปที่นั่นหรือ
185. That's not fair.
นั่นไม่ยุติธรรมเลย
186. What was your question again?
ขอคำถามคุณใหม่อีกทีนะ
187. There's much I have to tell you.
มีเรื่องมายมายที่ฉันต้องบอกกับคุณ
188. I'm en route to London.
ฉันอยู่ระหว่างทางมาลอนดอน
189. You are in no position to make demands.
คุณไม่อยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องอะไร
190. Don't say a word to anyone.
อย่าพูดอะไรกับใคร
191. This is not something to discuss on an open line.
นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะพูดคุยกันทางโทรศัพท์ได้
192. Do as I say and everything will be fine!
ทำตามที่ฉันบอกแล้วทุกสิ่งจะดีเอง
193. You have done well.
คุณทำได้ดี
194. Just be patient!
อดทนหน่อยน่า
195. That's the point!
ประเด็นนั่นแหล่ะ
196. There's so much I have to tell you both.
มีเรื่องมากมายเหลือเกินที่ฉันต้องบอกกับเธอทั้งสองคน
197. So much you do not yet understand.
เรื่องมากมายที่เธอยังไม่เข้าใจ
198. We thought you were in trouble.
พวกเราคิดว่าคุณกำลังประสบปัญหาอยู่
199. How could you know that?
คุณทราบได้อย่างไร
200. You and I should discuss this alone.
คุณและฉันควรจะพูดคุยเรื่องนี้กันตามลำพัง

 

 

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com