Articles
อ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้ได้ 1 ล้านคำ – โครงการที่น่าศึกษาของญี่ปุ่น
เพิ่ม 28 พย 59
สวัสดีครับ
ผมเคยอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ก็ลืมไปไม่ได้พูดถึง จึงขอถือโอกาสพูดวันนี้ วันขึ้นปีใหม่ 2557
ท่านพียงพิมพ์คำว่า SSS (start with simple stories) ใน Google ก็จะมีเรื่องนี้ให้อ่านมากมาย คลิก
ผมขอยกตัวอย่างมาสัก 2 ชิ้นข้างล่างนี้
SSS Extensive Reading Method Proves - SEG
สรุปก็คือ แนวคิดเรื่องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษโดยวิธีนี้ คือให้เด็กอ่าน story ง่าย ๆ สนุก ๆ ให้ได้ 1 ล้านคำภายใน 6 เดือนถึง 2 ปี ซึ่งเชื่อว่าทักษะการอ่านนี้จะนำไปสู่ทักษะอื่น ๆ ด้วย ในการนี้มีกฎทองคำอยู่ 3 ข้อ คือ
[1]ให้อ่านเรื่อง่ายที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องเปิดดิก, ถึงแม้ติดศัพท์บางคำก็ไม่ต้องเปิดดิก
[2]เจอคำยากไม่เข้าใจให้ข้ามไปเลย, หรือเดาก็ได้
[3]ถ้าเบื่อหรือถ้ารู้สึกว่ายากเกินไปให้เลิกอ่าน และเปลี่ยนเรื่อง
ผมเชื่อว่าวิธีนี้ของญี่ปุ่นได้ผลและมีประโยชน์เยอะ นอกจากเป็นการสร้างทักษะการอ่านที่แข็งแกร่ง ด้านศัพท์ สำนวน การตีความ การเดา การทำความเข้าใจ การคุ้นเคยกับโครงสร้างประโยค ลีลาของภาษา และการช่วยให้ทักษะการฟัง พูด เขียน ดีขึ้นตามไปด้วยแล้ว การอ่านยังนำมาซึ่งความเพลิดเพลิน ความรู้ คติชีวิต และจินตนาการ ยิ่งอ่านมากยิ่งได้มาก
และในเว็บนี้ผมได้แนะนำบ่อยมาก ๆ เลยว่า ให้พัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษ โดยการอ่านเรื่องที่ชอบและไม่ยากแต่อ่านเยอะ ๆ
แต่ปัญหาก็คือ เราจะหาเรื่องที่ทั้งง่ายและชอบจากไหน เรื่องง่ายนั้นพอหาได้ และในเน็ตก็มีของฟรีให้ดาวน์โหลดมากพอสมควร ในเว็บนี้ก็ได้รวบรวมไว้ที่นี่
ดาวน์โหลดหนังสืออ่านนอกเวลากว่า 150 เล่ม
ฟิตภาษาอังกฤษด้วยการอ่าน true story
ดาวน์โหลด 100 story ง่ายสุด ๆ เพื่อฝึกฟังพร้อมอ่านภาษาอังกฤษ
ด/ล ไฟล์ Story eBook ที่คลิกฟังเสียงอ่านได้ เป็นร้อยเรื่อง ที่นี่
ฝึกฟังและอ่าน - ภาษาอังกฤษ -ง่ายๆ - E4Thai.com
ฟังและอ่าน story ง่าย-ยาก ตามใจชอบ - E4Thai.com
ดาวน์โหลด audiobook สนุก-ง่าย-สั้น สำหรับเด็ก
ให้ Google Advanced Search ค้นหาเรื่องที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด (เรื่องที่ง่าย ๆ reading level: basic)
มี story ฝึกอ่านภาษาอังกฤษมาฝากครับ
รวม Story เพื่อการฟิต Reading Skill: นัสรูดิน
แต่การจะไปหา story ฟรีที่ถูกใจคนได้ครบนี่ซีออกจะหายากสักหน่อย เพราะความชอบของคนนั้นหลากหลาย การแก้ปัญหาเรื่องนี้มีวิธีเดียว คือ เราเองต้องลงทุนสักหน่อยในการหา ถ้าหาก็มักจะพบไม่มากก็น้อย แต่ถ้าไม่หาแล้วยังหวังว่าจะพบ นี่คือฝัน
ผมพยายามหาว่า มีเว็บไซต์ของญี่ปุ่นที่เขาให้ดาวน์โหลดฟรีหนังสือภาษาอังกฤษ ตามโครงการ sss(start with simple stories) นี้หรือไม่ แต่ก็หาไม่พบจึงต้องหาจากแหล่งอื่น
แต่ผมมาได้แนวคิดอย่างหนึ่งจาการอ่านเรื่อง SSS ของญี่ปุ่น คือ สำหรับท่านที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของท่าน ผมขอแนะนำให้ท่านอ่านภาษาอังกฤษให้ได้วันละ 1,000 คำ หรือตกเดือนละ 30,000 คำ โดยเริ่มจากเรื่องที่ง่ายซึ่งไม่ต้องเปิดดิก ปริมาณวันละ 1,000 คำนี่ไม่หนักหนาหรอกครับ เราอย่าไปหยิบอ่านเรื่องที่ยากเกินไปซีครับ
การเดินบนทางที่ถูกต้อง ระหว่างการตั้งเป้ากับไม่ตั้งเป้าที่ต้องบรรลุนั้นให้ผลต่างกัน ถ้าเดินอย่างเอ้อละเหยลอยชายมันก็ถึง แต่ถึงช้า แต่การตั้งเป้าและบรรลุเป้าหมายของแต่ละวัน จะช่วยทำให้เราบรรลุเป้าหมายของแต่ละเดือนได้ไม่ยาก เป้าที่ตั้งไว้ทำให้เราฮึดถ้าเราเป็นคนอึด
ท่านอาจจะถามว่า จะนับยังไงให้รู้ว่าเราอ่านได้กี่คำแล้ว เรื่องนี้ไม่ยากครับ ให้ท่านนับ 1 บรรทัดว่ามีกี่คำ
-ถ้าเป็นหนังสือ ก็เอา 1 บรรทัด คูณด้วยจำนวนบรรทัดใน 1 หน้า คูณด้วยจำนวนหน้า
-ถ้าเป็นหน้าเว็บ ก็เอา 1 บรรทัด คูณด้วยจำนวนบรรทัดใน 1 หน้าเว็บนั้น (หรือ copy เรื่องที่อ่านมาใส่ใน WORD ก็จะรู้ว่ามีกี่คำ)
ถ้าท่านจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ ก็เชิญอ่านกฎทองคำ 3 ข้อนี้อีกครั้ง
[1]ให้อ่านเรื่อง่ายที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องเปิดดิก, ถึงแม้ติดศัพท์บางคำก็ไม่ต้องเปิดดิก
[2]เจอคำยากไม่เข้าใจให้ข้ามไปเลย, หรือเดาก็ได้
[3]ถ้าเบื่อหรือถ้ารู้สึกว่ายากเกินไปให้เลิกอ่าน และเปลี่ยนเรื่อง(ถ้าท่านจะเปลี่ยนเรื่อง ก็ให้นับจำนวนคำถึงหน้าที่อ่านจบของเล่มที่จะเลิกอ่าน)
การเดินขึ้นภูเขานั้นยากเสมอเพราะต้องออกแรงต้านแรงดึงดูดของโลก แต่เราไม่ควรปิดโอกาสของตัวเอง เรารู้ได้อย่างไรว่าเราจะเดินไม่ไหวในเมื่อเรายังไม่ได้ลองเดิน และเรารู้ได้อย่างไรว่าวิวบนยอดเขานั้นไม่งดงามในเมื่อเรายังไม่ได้ขึ้นไปถึง
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.