Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

เรื่องของ “คนบ้าดิก”

 

 

 english-dict

 สวัสดีครับ
          ถ้าในประเทศไทยนี้มีการประกวดเพื่อหาแชมป์คนที่บ้าคลั่งหลงใหลคลั่งไคล้ดิกชันนารี หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “คนบ้าดิก” ผมก็จะเข้าประกวดกับเขาด้วย และคิดว่าแม้ไม่ได้ที่ 1 ก็น่าจะเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย

          เมื่อมองรอบตัวครบ 360 องศาแล้ว ผมก็ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้อาการเช่นนี้กำเริบอยู่เรื่อย ๆ ผมก็เลยเหมาเอาว่าคงเป็นเพราะชาติก่อนผมอาจจะเคยเป็นครูที่บังคับให้เด็กท่องดิก ชาตินี้จึงเกิดมารับกรรมกลายเป็นคนบ้าดิก

          ตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งไม่ค่อยมีตังค์ใช้ ผมก็ต้องทุกข์ทนเพราะความอยากได้ที่ไม่สมอยาก หลายครั้งที่ยืนกะลิ้มกะเหรี่ยอยู่ที่ชั้นหนังสือขายดิก แต่ไม่มีตังค์ซื้อ แม้ว่าสมัยนั้นผมจะไม่ค่อยหัวสูงเท่าไหร่ในการซื้อดิก คือผมมีเกณฑ์อยู่อย่างเดียวในการตัดสินว่าดิกเล่มใดดีที่สุด คือต้องมีศัพท์เยอะ เพราะฉะนั้น ก่อนเปิดดิกออกดู ผมจะมีคำศัพท์ยาก ๆ อยู่ในใจอยู่สัก 4 – 5 คำ ถ้าดิกเล่มไหนเปิดแล้วมีศัพท์พวกนี้ ผมก็จะเหมาว่าดิกเล่มนั้นดี ถ้าไม่มีก็ถือว่ายังเป็นดิกที่ใช้ไม่ได้ มาวันนี้เมื่อมองย้อนหลังไปยังวันนั้นจึงได้รู้สึกว่า ตอนนั้นเป็นอารมณ์รักดิกแบบเด็ก ๆ อะไร ๆ ก็ต้องใหญ่เข้าว่า เยอะเข้าไว้

          และเมื่อเรียนจบมีงานทำ ผมจึงเลิกระงับความอยากที่เก็บกดมานาน มานั่งนับเล่น ๆ ดู ผมคงจะซื้อดิกไปแล้วไม่น้อยกว่า 150 เล่มเก็บไว้ชื่นชมที่บ้าน และเริ่มมีรสนิยมวิไลมากขึ้น เช่น ต้องมีศัพท์เยอะ ใช้ภาษาง่ายและสวยงามในการอธิบายความหมายของศัพท์ ให้ตัวอย่างประโยคที่อ่านแล้วรู้เรื่อง มีคำอธิบายเพิ่มเติมในการใช้ศัพท์ พิมพ์หน้าปกและรูปเล่มสวยงาม แบบตัวอักษรน่าอ่าน และต้องเย็บเล่มด้วยเชือก เพราะถ้าเพียงอัดกาวที่สันปกเล่มอาจจะแตกง่ายถ้าเปิดบ่อย ๆ เป็นต้น

           มีอยู่บางครั้งที่ผมเสียดายเงินไม่ยอมซื้อเพราะบางเล่มราคาแพง แต่เมื่อกลับถึงบ้านก็นอนไม่หลับ ครุ่นคิดถึงแต่หน้าเธอคือหน้าปกของดิก และวันหลังก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้ ต้องกลับไปที่ร้านเดิมเพื่อซื้อดิกเล่มเดิมที่เคยลูบคลำ กลายเป็นเสียเพิ่มขึ้นทั้งเงินและเวลา ตอนหลังผมก็เลยมีข้อสรุปให้กับตัวเอง ถ้าความอยากซื้อดิกเล่มใดมีเกิน 50 % - ให้ซื้อไปเลย เพราะจะได้ไม่ต้องทนทุกข์เพราะรักที่ไม่สมปรารถนาเพราะแยกอยู่จากคนรัก

          ผมทำอะไรกับดิกที่ได้มาครอบครอง? เพียงแค่ได้เห็นหน้าปกก็ชื่นใจแล้ว หรือเมื่อได้พลิกดูศัพท์ตัวนั้นตัวนี้ก็ยิ่งเพลินมากขึ้น ดิกบางเล่มราคาแพง ๆ เมื่อซื้อมาแล้วอาจจะหยิบขึ้นมาดูไม่เกิน 10 – 20 ครั้ง เมื่อได้ดิกเล่มใหม่ดิกเล่มเก่าก็ถูกลืมไปบ้าง

          แต่สัจธรรมที่ผมได้พบเมื่อคบกับดิกมามากหน้าหลายตาก็คือ ไม่มีดิกเล่มใดดีจนไร้ที่ติ และไม่มีดิกเล่มใดชั่วจนไร้ที่ชม ดิกทุกเล่มมีทั้งความน่ารักและความน่าชังปะปนกันไปจนบางครั้งแยกแยะได้ยาก ดู ๆ ไปแล้วผมก็เลยได้คติว่าดิกชันนารีนี่ก็คงไม่ต่างจากคน ในคน 1 คนหรือในดิก 1 เล่ม ก็มีทั้งความน่าชื่นชมและน่าชิงชังปะปนกัน ก้มหน้ามองดิกแล้วเงยหน้ามองคน เงยหน้ามองคนแล้วก้มหน้าลงไปมองดิกอีกครั้ง มันก็ทำให้ปลงต่อชีวิตและปล่อยวางได้เหมือนกัน

          ท่านผู้อ่านที่หลงอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ และได้ข้อสรุปว่า “เออ ไอ้นี่มันบ้าดิกจริง ๆ กะอีแค่ดิกเป็นเล่ม ก็พูดได้เป็นคุ้งเป็นแคว” ถ้าท่านคิดอย่างนี้ผมขอบอกว่า “ถูกต้องแล้วครับ” แต่ที่พูดมานี้คือบ้าเฟส 1 เท่านั้น ผมยังมีความบ้าเฟส 2 เฟส 3 มาเล่าให้ท่านฟังอีก

          เหตุการณ์ผ่านไป และผมก็อายุมากขึ้น และผมก็หายจากการบ้าดิกไปอย่างดื้อ ๆ อาจจะเป็นเพราะว่า เราทำบุญด้วยกันมาเพียงแค่นี้ แต่ผมคงจะสร้างเคราะห์กรรมมาเยอะ อาการบ้าดิกเฟส 2 จึงเกิดขึ้น

          บริษัททำดิกดี ๆ ทั้งหลายที่ผมเลิกบ้าไปแล้วในเฟส 1 กลับเอาเนื้อหาทั้งหมดในดิกมาใส่ลงแผ่น CD และขายพร้อมกัน  ก็เลยทำให้ผมบ้าเฟส 2 คือต้องไปกว้านซื้อมาทุกเล่มที่มี CD ขายแนบ เพราะเขามักจะไม่ขาย CD แยกต่างหาก และดิก CD นี่นะครับน่าหลงใหลมากกว่าดิกเล่มหลายสิบเท่า เพราะมันมีลูกเล่นมากมายจนตัดใจไม่ได้ (อีกแล้ว)  

          นอกจาก CD ถูกกฎหมายซึ่งราคาแพง ผมก็ยังไปกว้านซื้อแผ่นดิกผิดกฎหมายราคาถูกจากห้างพันธุ์ทิพย์มาอีกหลายแผ่น น่าสงสารตัวเองจริง ๆ

          ในวันเวลาแห่งความบ้าเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าเฟส 1 หรือเฟส 2 ผมหาเพื่อนที่จะร่วมคุยเพื่อแบ่งปันความบ้าไม่ได้เลย ผมจึงได้สัจธรรมข้อที่ 2 จากความบ้าดิกเฟส 2 คือ ความเหงานั้นน่ากลัวนัก และคนที่ขี้เหงามาก ๆ เป็นคนที่น่าสงสาร ผมเหงาเพราะไม่มีเพื่อนร่วมบ้าดิกที่ผมรัก

          แต่มันก็คงจะเป็นอย่างที่ฝรั่งเขาว่าไว้ “Life must go on” คือและแล้วมาวันหนึ่ง เมื่อผมหมดกรรม ผมก็เลิกบ้าดิก CD และวันนั้นคือวันนี้ วันที่โลกมีอินเตอร์เน็ตใช้ วันที่ผมย่างเข้าสู่ความบ้าดิกเฟส 3 คือบ้าดิก online ที่คลิกใช้ได้ขณะต่อเน็ต และบ้าโปรแกรมดิก ที่สามารถดาวน์โหลดเอามาติดตั้งเพื่อคลิกใช้ offline กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องต่อเน็ต โดยอาการของเฟส 3 ปรากฏอยู่ที่ลิงค์นี้ เชิญท่านคลิกดูได้เลยครับ 

          ตอนนี้ผมเริ่มแก่แล้ว เมื่อมองย้อนไปยังชีวิตหนหลัง ผมจึงไม่อยากให้ใครก็ตามเป็น “คนบ้าดิก” อย่างผม ผมจึงขอสรุปเอาดื้อ ๆ ณ บรรทัดนี้ว่า ดิกนั้นดีมีประโยชน์ต่อการศึกษาภาษาอังกฤษ แต่ดิกก็เหมือนเครื่องมือเครื่องใช้อย่างอื่น เช่น มีด ซึ่งมีหลายแบบหลายชนิด ต้องใช้ให้ถูกตามหน้าที่ของมัน เช่นมีดหั่นผัก มีดหั่นเนื้อ มีดดายหญ้า มีดโกนหนวด ถ้าใช้ถูกชนิดถูกวิธีก็จะไม่มีโทษ และได้ประโยชน์ย่างเดียว ในกรณีของดิก ไม่ว่าจะเป็นดิกเล่ม - ดิก CD – ดิกคลิกใช้ online หรือโปรแกรมดิกที่ใช้ offline เมื่อไม่ต่อเน็ต หรือ talking dict ที่ใช้พกพา หรือดิกที่ดาวน์โหลดลงโทรศัพท์มือถือที่ผมจะแนะนำในโอกาสต่อไป เราควรใช้ให้ถูกกับชนิดของงาน ผมขอยกตัวอย่างรวม ๆ กันไปในคราวเดียวกันเลยนะครับ คือ

1. ดิกมีไว้เพื่อถามศัพท์:
ผมขอยกตัวอย่างเว็บไซต์ซึ่งเป็น database ขนาดใหญ่มีดิกรวมอยู่เป็นร้อย ๆ หรือพัน ๆ เล่ม ศัพท์ภาษาอังกฤษทั้งหลายแหล่ที่ใช้ในโลกรวมอยู่ที่นี่เกือบหมด ที่ 2 เว็บนี้ครับ
http://www.onelook.com/
http://www.yourdictionary.com/

และ Top English Learner's Dictionaries

2. ดิกมีไว้เพื่อทัวร์ศัพท์:
ท่านเคยเล่นอย่างนี้ไหมครับ เปิดดิกเล่มหนึ่งออกมา พลิกไปหน้านั้นหน้านี้ แล้วดูศัพท์ตัวนั้นตัวนี้ ตัวนี้ไม่น่าสนใจก็ผ่านไป ตัวนี้ดูท่าทางน่าสนใจก็หยุดพักดูสักหน่อย ส่วนตัวโน้นน่าสนใจเอามาก ๆ ก็หยุดดูนานหน่อย เหมือนขับรถส่วนตัวไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ นั่นแหละครับ สถานที่ไหนไม่อยากดูก็ขับรถผ่านไปเลย ที่ชอบน้อยก็แวะเดี๋ยวเดียว ที่ชอบมากก็แวะนานหน่อย ถ้าเป็นดิก online ประเภทนี้ ผมขอแนะนำ  ข้างล่างนี้ครับ

http://dictionary.kids.net.au/

เลื่อนลงมาข้างล่างจะเห็น  Random Word  เมื่อ กด Refresh จะได้คำใหม่,คลิก ...more เพื่อดูความหมายอื่น ๆ ของศัพท์

http://www.vocabulary.com/dictionary/love 

(ตอนใช้ ให้คลิกปุ่ม Random Word ที่ตอนบนของหน้า ไปเรื่อย ๆ )

http://www.wordreference.com/random/definition 

(ตอนใช้ ให้คลิกปุ่ม  Next random word  ไปเรื่อย ๆ )

http://ninjawords.com/

(ตอนใช้ ให้คลิกปุ่ม random ไปเรื่อย ๆ )

http://www.wordgenerator.net/random-word-generator.php

(ตอนใช้ ให้คลิกปุ่ม Generate Random Words ไปเรื่อย ๆ คำใดยากเกินไปก็ข้ามไปไม่ต้องสนใจ)

3. ดิกมีไว้เพื่อ test ศัพท์:

ผมขอชวนให้ท่าน download ไฟล์หนังสือ dictionary 4 เล่ม ข้างล่างนี้ เขาจัดเรียงคำศัพท์ในลักษณะดิก คือ A ถึง Z โดยเอาศัพท์สามัญที่ใช้บ่อยที่เรามักจะใช้ผิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผิดในความหมาย หรือใช้ผิดแกรมมาร์ หรือใช้ผิดในลักษณะไหนก็ตามมาเรียงไว้ ก่อนที่ท่านจะอ่าน ให้ท่านทำในลักษณะที่ test ตัวเองก่อน เช่น ถ้าเขาเอาศัพท์ 2 คำที่สะกดคล้าย ๆ กันมาอธิบายเปรียบเทียบกัน ท่านลองตอบตัวเองก่อนซิว่า 2 คำที่เขายกเอามาเป็นหัวข้อนี้มันใช้ต่างกันอย่างไร ท่านอาจจะตอบไม่ได้สมบูรณ์หรือตอบได้อย่างไม่แน่ใจก็ไม่เป็นไร ให้ลองตอบเพื่อ test ตัวเองก่อน แล้วค่อยอ่านคำอธิบายที่เฉลย, หรือถ้าเกิดเขายกตัวอย่างประโยคที่มีจุดที่ผิด ท่านดูออกไหมว่ามันผิดตรงไหน – ผิดยังไง แล้วค่อยดูเฉลย ถ้าไม่ขึ้นสังเวียนไม่มีทางรู้จริง ๆ หรอกครับว่าจะหลบหมัดคู่ต่อสู้ยังไง ถ้าไม่ test ตัวเองก็ไม่มีทางรู้หรอกครับว่าตัวเองรู้จริงหรือเปล่า

4 เล่มข้างล่างนี้ครับ

Longman Dictionary of Oommon Errors

Common Errors in English

Common Errors In English Usage - Oxford University Press

Easier English Basic Synonyms

4. ดิกมีไว้เพื่อท่องศัพท์:
ดิกบางเล่มเป็นดิกที่มีศัพท์พื้นฐานจริง ๆ คือเป็นศัพท์ที่ใช้บ่อยในการ ฟัง – พูด – อ่าน – เขียน ถ้าเราท่องทุกคำในดิกเล่มนี้ก็ไม่เสียเที่ยว อาจจะเป็นดิก หรือลักษณะ word list ที่มีเพียง 1,000 คำ, 2,000 คำ, 3,000 คำ เป็นต้น และจากคำพวกนี้แหละครับ ที่จะเป็นฐานให้เราสามารถเดา หรือจำศัพท์คำอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตได้อย่างไม่ลำบาก ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

1500 voa words with examples

คำศัพท์ 1,000 คำแรก พร้อมคำแปล ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ

The Oxford 3000 wordlist

The Longman Defining Vocabulary 

Webster's Learner's Dictionary

5. ดิกมีไว้เพื่อทบทวนศัพท์:

อันที่จริงดิกมีไว้ท่องศัพท์ในข้อ 4 ข้างบนก็สามารถใช้เป็นดิกเพื่อทบทวนศัพท์ก็ได้ แต่ผมไปพบไฟล์ดิก 2เล่ม คือ Easier English Basic Dictionary (ศัพท์ 10,000 คำ) และ Easier English Student Dictionary (ศัพท์  32,000 คำ) เป็นดิกที่น่ามีไว้เพื่อการทบทวนศัพท์อย่างยิ่ง คือ เป็นคำศัพท์ที่ใช้บ่อย, ประโยคหรือวลีตัวอย่างที่ให้ไว้ไม่ยาก-ไม่ยาวเกินไป ทำให้เข้าใจและจดจำง่าย และมีอย่างหนึ่งที่ดิกดัง ๆ เล่มอื่น ๆ มักจะไม่มี คือ ดิกเล่มนี้ให้คำนิยามคำศัพท์ทุกคำ เช่น คำ adverb ที่เติม –ly หรือคำนามที่เติม –ness ซึ่งดิกเล่มอื่นมักไม่ให้ความหมายไว้ เพราะให้เราเดาเอาเองจากคำต้นศัพท์

Easier English Basic Dictionary

Easier English Student Dictionary

ผมไม่รู้จะสรุปจบท้ายยังไง เอาเป็นว่าตอนต้น ผมเล่าเรื่องบ้าดิกของตัวเองให้ท่านฟังเล่น ๆ ส่วนตอนท้าย ที่ผมแนะนำว่าเราสามารถใช้ดิกเพื่อถามศัพท์, ทัวร์ศัพท์, test ศัพท์, ท่องศัพท์ และทบทวนศัพท์ อันนี้ผมพูดจริง ๆ ครับ ไม่ได้พูดเล่น


 เพิ่งนึกได้: ผมน่าจะพูดเกี่ยวกับดิกที่ใช้ใน smart phone และ tablet PC เป็นอาการบ้าดิกเฟส 4 แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ทุกวันนี้ผมยังไม่ได้ซื้อของพวกนี้มาใช้เลย แต่ได้เขียนเรื่องนี้ไว้บ้างแล้ว ที่บทความนี้

  แนะนำ Apps สำหรับ iPhone, iPad, Android

พิพัฒน์

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com