Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

ฝึกฟังบทสนทนา เพื่อให้สามารถพูดสนทนา ได้ดี

Basic Listening Engl

สวัสดีครับ

ที่ลิงค์นี้:Basic Listening Lessons

มีบทฝึกการฟังบทสนทนา โดยแบ่งออกเป็น 3 step ดังนี้

Step 1: คลิกฟังอย่างเดียว, เราคนฝึกจะต้องตั้งใจมาก ๆ เพื่อฟังให้รู้เรื่องให้มากที่สุด, จะฟังกี่เที่ยวก็ได้, อย่าเพิ่งไปคลิกอ่านคำถาม ใน step 2, หรืออ่านบทสนทนา ใน step 3,   

Step 2: คลิกทำ test, ถ้าไม่แน่ใจจะกลับไปคลิกฟังซ้ำก็ได้

Step 3: คลิกอ่านบทสนทนา, อย่าอ่านก่อนเพราะจะทำให้เราไม่ได้ฝึกฟัง

       ท่านผู้อ่านครับ ทุกครั้งที่ผมเจอเว็บทำนองนี้ ผมจะลองเข้าไปอ่านคำอธิบายหรือทำ test ของเขาก่อน ถ้ารู้สึกว่าดีจึงค่อยแนะนำท่านผู้อ่าน อย่างเว็บนี้ผมลองเข้าไปทำ test ดูแล้ว และเห็นว่าดี จึงขอนำมาแนะนำ  โดยผมมีความรู้สึกนึกคิดต่อไปนี้ครับ

[1] test นี้มีประโยชน์มาก คือเขานำบทพูดสนทนาจริง ๆ มาให้เราฝึกฟัง และทดสอบความเข้าใจโดยการทำ test เราจะได้เรียนรู้ทั้งสำเนียงและสำนวนที่เป็นธรรมชาติ ที่บอกว่าเป็นธรรมชาติก็เพราะว่า ฝรั่งเขาพูดกันยังไง  เขาก็เอาอย่างนั้นมาให้เราฟัง  พอถึงเวลาที่เราจะต้องพูดกับฝรั่งจริง ๆ เราจะไม่ลำบากมาก เพราะเราได้ train หูของเราให้คุ้นเคยกับสำเนียงและสำนวนของเขามาพอสมควรแล้ว และตอนจะพูดโต้ตอบ  เราก็เก็บเอาคำศัพท์หรือสำนวนจากประโยคเหล่านี้แหละครับไปพูด เราอาจจะพูดได้ไม่เหมือนเขา  แต่อย่างน้อยเขาก็จะเข้าใจถ้อยคำที่เราพยายามพูด

[2] นี่ผมลองคิดเผื่อบางท่านที่เข้ามาลองฝึกฟังกับเว็บนี้ ท่านอาจจะพบอะไรบางอย่างที่ทำให้ท่านรู้สึกท้อไม่อยากฝึกต่อ หรือฝึกต่อแต่ฝึกอย่างผิดวิธี อย่างนี้ครับ

  • -คือ นี่คือการฝึกฟัง เพื่อให้เราเกิด listening skill ซึ่งจะกลายเป็น speaking skill ต่อไป,  แต่ตอน start นี่นะครับ ถ้ามันฟังไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องน้อยมาก เราก็ต้องทนฟังซ้ำหลาย ๆ เที่ยว, พอฟังเที่ยวใหม่ก็อาจจะรู้เรื่องมากขึ้นอีก 1 คำหรือ 2 คำ, ก็ต้องใจเย็น ๆ อย่าใจร้อน, อย่ากระฟัดกระเฟียดต่อว่าต่อขานตัวเองที่ฟังไม่รู้เรื่อง, ยอมทนฟังหลาย ๆ เที่ยวนี่แหละครับ คือหนทางฝึกที่ถูกต้องแล้ว
  • -เรื่องต่อไปที่ผมขอเน้นเป็นพิเศษก็คือสมาธิในการฟัง คือว่า สำหรับคนที่เขาเก่งแล้ว คล่องแล้ว แม้เขาไม่ต้องตั้งใจหรือไม่ต้องใช้สมาธิมาก เขาก็ฟังรู้เรื่อง แต่สำหรับเราซึ่งยังไม่คล่อง เราจำเป็นต้องพึ่งสมาธิ เพราะฉะนั้น  ถ้าเราไม่มีสมาธิหรือมีแต่สั้น  ก็ยากที่จะฝึก listening ได้ดี, คือว่าหูกับปากนี่มันจะต้องช่วยเหลือกัน, คนไทยจำนวนมากที่ต้องการพูดเก่งโดยให้ปากทำงาน แต่ไม่ยอมฝึกหู  ปากจึงทำงานอย่างไร้ผู้ช่วย  ก็ยากครับที่จะพูดเก่ง
  • -และที่ผมบอกว่าหลายคนก็พยายามฝึก แต่ฝึกอย่างผิดวิธี ก็คือว่า เมื่อฟังบทสนทนา หรือ dialog ในเว็บนี้แล้วไม่รู้เรื่อง ก็พยายามที่จะให้รู้เรื่องเร็ว ๆ โดยการอ่าน คือข้ามไป step 3 เลย, นี่แหละครับที่ผมบอกว่าฝึกผิด คือการฝึกฟังให้รู้เรื่อง หรือ listening skill เพื่อปูพื้นฐานให้ตัวเองสามารถพูดเพื่อเป็น speaking skill ได้, มันต้องเป็นการรู้เรื่องเพราะฟังด้วยหู,  ไม่ใช่รู้เรื่องเพราะอ่านบทสนทนาด้วยตา

เพราะฉะนั้น  ท่านจะเห็นได้ว่า เราต้องใจเย็น อดทน และมีสมาธิเต็มที่ต่อเนื่อง  ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของใจทั้งนั้นแหละครับ

[3] พอถึง step ที่ 2 ซึ่งเขามีคำถามให้คลิกตอบ 4 ข้อนั้น เขาก็ถามตรงไปตรงมาไม่ยาก รู้สึกว่าจะง่ายกว่าบทสนทนาที่ฟังซะอีก แต่ก็อย่างที่บอกไว้แล้ว, เราอย่าเพิ่งมาอ่านคำถาม-คำตอบที่ตรงนี้, เพราะถ้ามาอ่านซะก่อน หูของเราจะไม่ได้ออกกำลังมากพอในการฝึกฟัง

[4] ส่วน step ที่ 3 คือคลิกอ่านบทสนทนานั้น ตอนนี้เราก็ค่อย ๆ ละเลียดอ่านไปทีละคำ ทีละประโยค, เมื่อเข้าใจดีแล้ว  ลองกลับไปคลิกฟัง ใน step ที่ 1 อีกครั้งก็ได้, ท่านจะรู้สึกว่า ท่านฟังได้รู้เรื่องมากขึ้น,  แต่นี่เป็นการรู้เรื่องอันเกิดมาจากการอ่าน, ซึ่งในเว็บนี้ เขาไม่ได้ต้องการให้ท่าน start การฝึกด้วยการรู้เรื่องแบบนี้, เขาต้องการฝึกให้ท่านรู้เรื่องโดยใช้หู

ผมขอสรุปอีกครั้งนะครับว่า ทั้ง 34 บทในลิงค์นี้

Basic Listening Lessons

 เป็นการฝึกฟังบทสนทนา เพื่อให้สามารถพูดสนทนา ได้ดี  โดยการ train หูของตัวเองให้ฟังโดยใช้สมาธิอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ซึ่งจะมีประโยชน์มากต่อการพัฒนา speaking skill

ถ้าต้องการฝึกระดับที่ยากขึ้น ก็ไปที่นี่ครับ

Intermediate Listening Lessons

Advanced Listening Lessons

พิพัฒน์

https://www.facebook.com/EnglishforThai

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com