ฝึกฟังบทสนทนา เพื่อให้สามารถพูดสนทนา ได้ดี
สวัสดีครับ
ที่ลิงค์นี้:Basic Listening Lessons
มีบทฝึกการฟังบทสนทนา โดยแบ่งออกเป็น 3 step ดังนี้
Step 1: คลิกฟังอย่างเดียว, เราคนฝึกจะต้องตั้งใจมาก ๆ เพื่อฟังให้รู้เรื่องให้มากที่สุด, จะฟังกี่เที่ยวก็ได้, อย่าเพิ่งไปคลิกอ่านคำถาม ใน step 2, หรืออ่านบทสนทนา ใน step 3,
Step 2: คลิกทำ test, ถ้าไม่แน่ใจจะกลับไปคลิกฟังซ้ำก็ได้
Step 3: คลิกอ่านบทสนทนา, อย่าอ่านก่อนเพราะจะทำให้เราไม่ได้ฝึกฟัง
ท่านผู้อ่านครับ ทุกครั้งที่ผมเจอเว็บทำนองนี้ ผมจะลองเข้าไปอ่านคำอธิบายหรือทำ test ของเขาก่อน ถ้ารู้สึกว่าดีจึงค่อยแนะนำท่านผู้อ่าน อย่างเว็บนี้ผมลองเข้าไปทำ test ดูแล้ว และเห็นว่าดี จึงขอนำมาแนะนำ โดยผมมีความรู้สึกนึกคิดต่อไปนี้ครับ
[1] test นี้มีประโยชน์มาก คือเขานำบทพูดสนทนาจริง ๆ มาให้เราฝึกฟัง และทดสอบความเข้าใจโดยการทำ test เราจะได้เรียนรู้ทั้งสำเนียงและสำนวนที่เป็นธรรมชาติ ที่บอกว่าเป็นธรรมชาติก็เพราะว่า ฝรั่งเขาพูดกันยังไง เขาก็เอาอย่างนั้นมาให้เราฟัง พอถึงเวลาที่เราจะต้องพูดกับฝรั่งจริง ๆ เราจะไม่ลำบากมาก เพราะเราได้ train หูของเราให้คุ้นเคยกับสำเนียงและสำนวนของเขามาพอสมควรแล้ว และตอนจะพูดโต้ตอบ เราก็เก็บเอาคำศัพท์หรือสำนวนจากประโยคเหล่านี้แหละครับไปพูด เราอาจจะพูดได้ไม่เหมือนเขา แต่อย่างน้อยเขาก็จะเข้าใจถ้อยคำที่เราพยายามพูด
[2] นี่ผมลองคิดเผื่อบางท่านที่เข้ามาลองฝึกฟังกับเว็บนี้ ท่านอาจจะพบอะไรบางอย่างที่ทำให้ท่านรู้สึกท้อไม่อยากฝึกต่อ หรือฝึกต่อแต่ฝึกอย่างผิดวิธี อย่างนี้ครับ
- -คือ นี่คือการฝึกฟัง เพื่อให้เราเกิด listening skill ซึ่งจะกลายเป็น speaking skill ต่อไป, แต่ตอน start นี่นะครับ ถ้ามันฟังไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องน้อยมาก เราก็ต้องทนฟังซ้ำหลาย ๆ เที่ยว, พอฟังเที่ยวใหม่ก็อาจจะรู้เรื่องมากขึ้นอีก 1 คำหรือ 2 คำ, ก็ต้องใจเย็น ๆ อย่าใจร้อน, อย่ากระฟัดกระเฟียดต่อว่าต่อขานตัวเองที่ฟังไม่รู้เรื่อง, ยอมทนฟังหลาย ๆ เที่ยวนี่แหละครับ คือหนทางฝึกที่ถูกต้องแล้ว
- -เรื่องต่อไปที่ผมขอเน้นเป็นพิเศษก็คือสมาธิในการฟัง คือว่า สำหรับคนที่เขาเก่งแล้ว คล่องแล้ว แม้เขาไม่ต้องตั้งใจหรือไม่ต้องใช้สมาธิมาก เขาก็ฟังรู้เรื่อง แต่สำหรับเราซึ่งยังไม่คล่อง เราจำเป็นต้องพึ่งสมาธิ เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่มีสมาธิหรือมีแต่สั้น ก็ยากที่จะฝึก listening ได้ดี, คือว่าหูกับปากนี่มันจะต้องช่วยเหลือกัน, คนไทยจำนวนมากที่ต้องการพูดเก่งโดยให้ปากทำงาน แต่ไม่ยอมฝึกหู ปากจึงทำงานอย่างไร้ผู้ช่วย ก็ยากครับที่จะพูดเก่ง
- -และที่ผมบอกว่าหลายคนก็พยายามฝึก แต่ฝึกอย่างผิดวิธี ก็คือว่า เมื่อฟังบทสนทนา หรือ dialog ในเว็บนี้แล้วไม่รู้เรื่อง ก็พยายามที่จะให้รู้เรื่องเร็ว ๆ โดยการอ่าน คือข้ามไป step 3 เลย, นี่แหละครับที่ผมบอกว่าฝึกผิด คือการฝึกฟังให้รู้เรื่อง หรือ listening skill เพื่อปูพื้นฐานให้ตัวเองสามารถพูดเพื่อเป็น speaking skill ได้, มันต้องเป็นการรู้เรื่องเพราะฟังด้วยหู, ไม่ใช่รู้เรื่องเพราะอ่านบทสนทนาด้วยตา
เพราะฉะนั้น ท่านจะเห็นได้ว่า เราต้องใจเย็น อดทน และมีสมาธิเต็มที่ต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของใจทั้งนั้นแหละครับ
[3] พอถึง step ที่ 2 ซึ่งเขามีคำถามให้คลิกตอบ 4 ข้อนั้น เขาก็ถามตรงไปตรงมาไม่ยาก รู้สึกว่าจะง่ายกว่าบทสนทนาที่ฟังซะอีก แต่ก็อย่างที่บอกไว้แล้ว, เราอย่าเพิ่งมาอ่านคำถาม-คำตอบที่ตรงนี้, เพราะถ้ามาอ่านซะก่อน หูของเราจะไม่ได้ออกกำลังมากพอในการฝึกฟัง
[4] ส่วน step ที่ 3 คือคลิกอ่านบทสนทนานั้น ตอนนี้เราก็ค่อย ๆ ละเลียดอ่านไปทีละคำ ทีละประโยค, เมื่อเข้าใจดีแล้ว ลองกลับไปคลิกฟัง ใน step ที่ 1 อีกครั้งก็ได้, ท่านจะรู้สึกว่า ท่านฟังได้รู้เรื่องมากขึ้น, แต่นี่เป็นการรู้เรื่องอันเกิดมาจากการอ่าน, ซึ่งในเว็บนี้ เขาไม่ได้ต้องการให้ท่าน start การฝึกด้วยการรู้เรื่องแบบนี้, เขาต้องการฝึกให้ท่านรู้เรื่องโดยใช้หู
ผมขอสรุปอีกครั้งนะครับว่า ทั้ง 34 บทในลิงค์นี้
เป็นการฝึกฟังบทสนทนา เพื่อให้สามารถพูดสนทนา ได้ดี โดยการ train หูของตัวเองให้ฟังโดยใช้สมาธิอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ซึ่งจะมีประโยชน์มากต่อการพัฒนา speaking skill
ถ้าต้องการฝึกระดับที่ยากขึ้น ก็ไปที่นี่ครับ
Intermediate Listening Lessons
พิพัฒน์