เมื่อฟังไกด์คนจีนแนะนำลูกทัวร์
สวัสดีครับ
คุณประสาร คิดดี Technical Webmaster ของ e4thai.com ซึ่งกำลังศึกษาปริญญาเอกด้านหุ่นยนต์ที่ปักกิ่ง(แต่แม้ตัวจะอยู่เมืองจีน ก็ช่วยงานเว็บไม่ต่างจากอยู่เมืองไทย) ช่วงตรุษจีนนี้ขอลาอาจารย์มาเยี่ยมบ้าน แกเล่าให้ผมเรื่องที่ได้ฟังไกด์จีนพูดแนะนำลูกทัวร์ตอนอยู่ที่สนามบินฉางชาเรื่องการปฏิบัติตัวเมื่อเที่ยวเมืองไทย ผมฟังแล้วก็รู้สึกอยากเล่าต่อให้ท่านผู้อ่านฟังด้วย แต่มาคิดดูอีกทีให้คุณประสารบอกท่านผู้อ่านเองน่าจะดีกว่าเยอะ
เชิญฟังคุณประสารเล่าเรื่องนี้ได้เลยครับ …..
+++++
คนจีนทั้งประเทศ มีราวๆ สามพันล้านคน ผมเคยคุยกับเพื่อนว่า ตัวเลขนี้แน่นอนหรือเปล่า เพื่อนบอกว่า ที่จริงแล้วน่าจะตกสำรวจอีกราวๆ หลายร้อยล้านคน เพราะบางพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมือง อีกทั้งประเทศจีนสมัยก่อนใช้กฎหมาย หนึ่งบ้านสามคน (พ่อ แม่ ลูก) พูดง่ายๆ คือบังคับให้มีลูกคนเดียวนั่นแหละครับ เมื่อคนเยอะๆ เวลามีวันหยุดยาวๆ อย่างช่วงตรุษจีน บัตรโดยสารทุกประเภท ดูเหมือนจะถูกซื้อหมดไปก่อนหน้าวันตรุษจีนสักหนึ่งเดือนแล้ว ช่วงวันหยุดอย่างนี้ปักกิ่ง จะมีบรรยากาศคล้ายๆ กรุงเทพฯ ช่วงสงกรานต์ แต่เงียบและเหงากว่าหลายเท่า
ผมก็อาศัยวันหยุดนี้ กลับเมืองไทยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนตั๋วเครื่องบินจะมีให้เลือกน้อยและราคาค่อนข้างแพงมาก โชคดีที่ผมรู้ว่า สายการบินไทยสไมล์เขาเปิดเส้นทาง ฉางชา-กรุงเทพฯ เมื่อไม่นานมานี่เอง ผมเลยตัดสินใจ บินจากปักกิ่งไปลงที่ฉางชา เครื่องถึงฉางชาช่วงเช้า และรอต่อเครื่องไปกรุงเทพฯ ช่วงเย็น
ระหว่างนั่งรอที่สนามบิน ก็เดินเล่นบ้างหลับบ้าง ใจหนึ่งอยากออกไปเดินเล่นในตัวเมือง แต่วันนี้มีฝนปรอยๆ ดูแล้วคงไม่สะดวก เลยตัดสินใจว่านั่งๆนอนๆ รอ เครื่องบินดีกว่า ระหว่างที่นั่งรอ มีกลุ่มคนจีนราวๆ สัก สิบกว่าคน มากันเป็นกลุ่ม ฟังๆดู คงจะไปเที่ยวประเทศไทยกับบริษัททัวร์ แล้วไกด์สาวอายุราวๆ สัก สามสิบต้นๆ ก็เริ่มต้นแนะนำตนเองและเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศไทย เธอพูดได้อย่างคล่องแคล่วและชัดเจนมาก สำเนียงแบบคนปักกิ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องเปลี่ยนจากการฟังแบบผ่านๆ มาเป็นการฟังแบบตั้งใจ คือเนื้อหาเกี่ยวกับเมืองไทยที่เธอเล่าให้ลูกทัวร์เธอฟัง ผมเห็นว่าน่าสนใจดีครับ ผมขอเขียนเป็นข้อๆ ตามลำดับ เพื่อจะให้อ่านง่ายๆ ดังนี้ ครับ
๑.ระหว่างการเที่ยวใช้ธง เป็นหลัก ให้จำธงทัวร์ จำรถบัส จำเพื่อนที่มาด้วยกัน
๒.เมืองไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ค่อนข้างอันตราย เพราะสายไฟระเกะระกะ ไม่ใด้ทันสมัยเจริญแบบบ้านเมืองของจีนที่เก็บสายไฟลงท่อไต้ดินหมดแล้ว
๓.ระหว่างอยู่เมืองไทยอย่าเล่นไพ่ เพราะผิดกฎหมาย คนไทยทั่วไป รายได้น้อย การโทรแจ้งตำรวจให้มาจับพวกเราทำให้เขาได้เงินหลายบาททีเดียว(คนจีนเล่นไพ่กันตามที่สาธารณะจนเป็นเรื่องปกติ แม้ว่ากฎหมายจะห้ามก็ตาม)
๔.ที่พัทยามีโชว์ของสาวประเภทสองเยอะ หากเห็นหรือพบปะเขาเหล่านั้น อย่าชี้นิ้วไปที่เขา เพราะเป็นการเสียมารยาท คนไทยไม่ชอบ
๕.ของที่เมืองไทยปลอมเยอะ อย่าเห็นว่าถูกอย่างเดียว เดิมทีของในประเทศไทยไม่ค่อยมีปลอมกันหรอก แต่พักหลังๆ จีนทำปลอมเยอะ ไทยก็รับมาขาย หรือไม่ก็ทำปลอมมาขายกันเองบ้าง
๖.คนไทย มีเงินแค่สามสิบบาท ก็สามารถไปโรงพยาบาลได้ (ข้อนี้บรรดาลูกทัวร์ฮือฮากันมาก)
๗.ระหว่างอยู่ในเมืองไทย อย่าทำการมิควรกับรูปพระบรมฉายาลักษณ์ และสีประจำพระองค์(สีเหลือง สีฟ้า อื่นๆ) เพราะอาจจะโดนจับขังคุกได้ มีฝรั่งถูกจำคุกมาแล้วนะ
หลังจากนั้นก็เป็นการแนะนำเรื่องอื่นๆ เล็กๆน้อยๆ พอฟังเธอบรรยายเสร็จผมเลยคิดไปว่า ถ้าผมไม่ใช่คนไทย แล้วได้ฟังการแนะนำเมืองไทยเวอชั่นนี้ คงคิดไปว่าเมืองไทย ก็น่าเที่ยวไม่น้อย เพราะดูแล้วแปลกๆ ดี บอกไม่ถูกว่าแปลกอย่างไร แต่พอมาคิดว่าถ้าเราเป็นคนไทยแล้วไปเจอนักท่องเที่ยวจีนแถววัดพระแก้ว ก็คงคิดในใจว่าคนจีนนี่ไม่ค่อยมีวัฒนธรรม อย่างที่คนเขาว่าๆ กันมา เหมือนกัน
ประสาร คิดดี