Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

แนะนำ Facebook “เรียนศัพท์จากคำคม” และคำแนะนำในการเรียนภาษาอังกฤษกับคำคม

Quotes Words เรียนศัพท์จากคำคม 

สวัสดีครับ

ในเน็ตทุกวันนี้มีคำคมอังกฤษแปลไทยมากมาย ท่านลองคลิกเข้าไปดูก็ได้  ↣ คำคม อังกฤษ ไทย และสามารถใช้เว็บพวกนี้ฝึกอ่าน-ฝึกแปลภาษาอังกฤษได้

        และวันนี้ผมขอแนะนำ Facebook เรียนศัพท์จากคำคม  ⇾ https://www.facebook.com/quoteswordsbkk

        เขานำคำคมภาษาอังกฤษมาแปลเป็นภาษาไทยให้ศึกษา ซึ่งสมกับชื่อ Facebook ว่า “เรียนศัพท์จากคำคม” เพราะนอกจากแปลศัพท์แล้ว ยังบอกประเภทของคำ, คำอ่าน, และบางทีก็แถมคำอธิบายอื่น ๆ เกี่ยวกับคำศัพท์หรือแกรมมาร์ รวมทั้งข้อมูลสั้น ๆ เกี่ยวกับเจ้าของคำคมอีกด้วย

 ณ วันนี้ (6 ตค. 59) Facebook เรียนศัพท์จากคำคม มี 30 คำคม คาดว่า จะมีเพิ่มมาให้อ่านเรื่อย ๆ  ผมขอแนะนำให้ท่านไล่ศึกษาไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่อันแรกเลย == > คลิก   เมื่ออ่านจบแต่ละอันก็คลิก  >  ที่อยู่ขอบขวาไปเรื่อย ๆ 


ทำไมผู้คนจึงสนใจคำคม? เท่าที่ผมสังเกต ความคมของคำคมนั้นมาจาก 2 อย่าง คือ เนื้อหาที่คม และภาษาที่คม บางคำคมคมที่เนื้อหาอย่างเดียว แต่บางคำคมคมทั้งเนื้อหาและภาษา มีการใช้คำที่มีพลัง  คล้องจอง สัมผัส ลงหนักเบา เล่นจังหวะ ใช้อุปมา ฯลฯ  ในรูปของฉันทลักษณ์ หรือแม้แต่ในรูปกลอนเปล่า  ก็ล้วนช่วยให้เนื้อหาที่คมอยู่แล้วคมยิ่งขึ้น  เป็นที่ประทับใจและน่าจดจำ

แต่ที่ผมรู้สึกเฉย ๆ ก็คือ บางคนพยายามสร้างคำคมโดยอาศัยความคมของภาษาแต่เนื้อหากลับไม่มีอะไรเลย คำคมพวกนี้มักจะคมอยู่ไม่ได้นานและทื่อเร็ว

เมื่อมีการแปลคำคมจากภาษาหนึ่งไปสู่อีกภาษาหนึ่ง ถ้าคำคมของต้นฉบับมีทั้งคมที่เนื้อหาและคมที่ภาษา ผู้แปลที่เก่งจะสามารถถ่ายถอดความคมได้ทั้ง 2 ส่วน นี่ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงคำแปลโคลงโลกนิติจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช  เพราะท่านแปลได้คมครบถ้วน คลิก  ซึ่งผมเขียนไว้ที่บทความนี้นานมาแล้ว คลิก   

ส่วนคำคมสำนวนแปลใหม่ ๆ จากภาษาไทยเป็นอังกฤษ ที่ผมเคยเจอว่าท่านแปลได้คมก็มีอยู่ไม่น้อย เช่น

อมฤตพจนา พุทธศาสนสุภาษิต โดย พระพรหมคุณาภรณ์ ไทย – อังกฤษ คลิก หรือหนังสือของท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี 2 เล่มนี้ ทวิตธรรม นำ ทวิตเตอร์ คลิก และ วรรคทอง – วรรคธรรม  คลิก


            สำหรับพวกเราที่ศึกษาภาษาอังกฤษจากคำคมอังกฤษแปลไทย  ผมมีความเห็นดังนี้

เมื่ออ่านคำคมภาษาอังกฤษ อันดับแรกให้พยายามตีความให้รู้เรื่องด้วยตัวเอง  และการรู้เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเป็นภาษาไทย เพราะเราสามารถรู้เรื่องเป็นภาษาอังกฤษในสมองไปได้เลยโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย

เมื่อทำความเข้าใจแล้ว ก็ลองแปลเองเป็นภาษาไทยดูซิ  นี่เป็นการวัดความสามารถของเราในการใช้ภาษาไทย

หลังจากนี้จึงอ่านคำแปลที่เขาโชว์ไว้ในหน้าเว็บ ดูว่า เขาแปลได้ดีไหม  ถูกต้องไหม ทั้งในด้านของความหมายและการใช้ภาษา

ทุกวันนี้มีคำคมมากมาย ที่แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ผมขอแนะนำให้ท่านใช้หลักเกณณ์ 3 ข้อนี้ในการศึกษาคำคม และท่านจะได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัว

ส่วนในเรื่องของเนื้อหา ผมเห็นว่ามีเรื่องหนึ่งที่ควรระวังอยู่บ้างเมื่ออ่านคำคม  คือว่า คำคมนั้นมักจะสั้น ๆ จึงเป็นไปไม่ได้ที่คำคมจะครอบคลุมทุกแง่มุมที่กำลังพูด เพราะฉะนั้นการตีความความหมายของคำคมให้ได้ประโยชน์  ต้องตีความในแง่บวกให้เกิดประโยชน์เพื่อครอบคลุมสิ่งที่คำคมเว้นไว้ไม่ได้พูด สรุปสั้น ๆ ก็คือ ต้องไม่ตีความคำคมไปในแง่ที่ทำร้ายตัวเองหรือทำร้ายคนอื่น แต่ต้องตีความอย่างสร้างสรรค์เพื่อเกื้อกูลตนเองและคนอื่น


 ถ้าท่านต้องการศึกษาคำคมภาษาอังกฤษพร้อมภาพสวย ๆ ก็ให้ไปที่ Google Images และพิมพ์ชื่อหัวข้อหรือชื่อเจ้าของคำคมลงไป และตามด้วยคำว่า quotes เพียงเท่านี้ ท่านก็จะได้คำคมภาษาอังกฤษมาศึกษา ฝึกอ่าน ฝึกแปล เช่น

            สรุปก็คือ การศึกษาคำคมภาษาอังกฤษ และการฝึกแปลเป็นภาษาไทย มีประโยชน์หลายอย่าง ไม่เพียงแค่ทักษะภาษาอังกฤษแต่ชีวิตของเราก็คมขึ้นด้วย

พิพัฒน์

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com