e4thai.com

♥ผมมี eBook dictionary ที่รวบรวม idiom และ slang อยู่หลายเล่ม ท่านลองดูแล้วกันครับว่าชอบเล่มไหน
♣ ผมไม่แน่ใจว่า ในเว็บ e4thai.com มันยังมี eBook พวกนี้เล่มอื่นที่ยังหลงหูหลงตาอยู่หรือเปล่า ถ้าท่านใดเจอช่วยบอกด้วยนะครับ จะได้ดึงมาแปะไว้ให้มันอยู่ที่เดียวกัน ขอบคุณครับ ☻
♦♦♦ Idiom dictionary ♦♦♦
【1】➔ 1992
 Dictionary of Idioms and Their Origins 
【2】➔ 2000
 NTC's American Idioms Dictionary 
【3】➔ 2004
 Oxford Dictionary of Idioms 
【4】➔ 2005
 McGraw-Hill's Dictionary of American Idioms and Phrasal Verbs 
【5】➔ ?
 English Idioms Dictionary 

♦♦♦ Slang dictionary ♦♦♦
【1】➔ 1998
 Oxford Dictionary of Slang 
【2】➔ 1998
 NTC's Thematic Dictionary of American Slang 
【3】➔ 2000
 NTC's Dictionary of American Slang and Colloquial Expressions 
【4】➔ 2007
 McGraw-Hill's Super-Mini American Slang Dictionary 
【5】➔2018
 Modern American Slang 

พิพัฒน์

www.facebook.com/en4th 

       ศัพท์พื้นฐานที่เราใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน คำหนึ่ง ๆ มักจะมีมากกว่า 1 ความหมาย หรืออาจจะเป็นทั้ง noun, verb, adjective เช่น
back = หลัง, ข้างหลัง, ด้านหลัง, ถอยหลัง, สนับสนุน
light = แสง, ไฟ, จุดไฟ, ให้แสงสว่าง, เบา, จาง, อ่อน
mean = มีความหมาย, ค่าเฉลี่ย, โหดร้าย, ขี้เหนียว
right = ขวา, ถูกต้อง, สิทธิ
       และก็เป็นธรรมชาติที่ศัพท์ใช้บ่อยพวกนี้ จะมีศัพท์ใช้บ่อยคำอื่น ๆ ที่มีความหมายตรงกันข้าม หรือ antonym เข้าคู่กัน
       แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ศัพท์พื้นฐานแต่ละคำที่มาเข้าคู่กันนี้ ก็มักจะมีหลายความหมายเช่นกัน
       เพราะฉะนั้นเมื่อเราจับคู่ศัพท์ที่มีความหมายตรงกันข้าม ย่อมหมายความว่า เราดึงเพียงความหมายใดความหมายหนึ่ง ที่มันตรงกันข้าม ของศัพท์คู่นั้น มาปะกบกัน
       เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ท่านคงเห็นแล้วว่า ถ้าจับคู่คำศัพท์ตรงกันข้ามมาให้ท่านดู ท่านก็จะระลึกถึงหลาย ๆ ความหมายของศัพท์คู่นั้น และพยายาม focus ลงไปว่า ความหมายใดเล่าที่มันตรงกันข้าม กระบวนการทบทวนและฟันธงเช่นนี้ มันเกิดขึ้นในสมองโดยอัตโนมัติไม่ต้องให้ใครสั่ง เช่น

• right - left
• right - wrong
• light - heavy
• light - dark

       เพราะฉะนั้น การได้เห็น - ได้ทบทวน ศัพท์คู่ที่มีความหมายตรงกันข้ามบ่อย ๆ จึงเป็นการทบทวนคำศัพท์ที่วิเศษมาก เพราะมันจะกระตุ้นให้สมองได้ใช้ความคิดทบทวนว่า (1)ศัพท์ 2 คำนี้มีความหมายใดบ้าง และ (2)ความหมายใดนะที่มันตรงกันข้าม โดยสิ่งที่ท่านจะได้ทบทวนนั้นคือทุกความหมายที่วิ่งไปวิ่งมาในสมองของท่าน
       ผมได้ทำศัพท์คู่ความหมายตรงกันข้ามจำนวน 3 ชุดให้ท่านฝึก

• ชุดที่ 1 : ศัพท์ 550 คู่ ไฮไลท์ดูคำแปล - โชว์คำแปลทันที
• ชุดที่ 2 : ศัพท์ 330 คู่ ไฮไลท์ดูคำแปล - โชว์คำแปลทันที
• ชุดที่ 3 : adjective 40 คู่ ไฮไลท์ดูคำแปล - โชว์คำแปลทันที

พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th 

♥ คำว่า "เกรงใจ" เป็นคำศัพท์ที่มีบทความเขียนถาม และเขียนตอบ เยอะ
→ https://tinyurl.com/y9fgeoxt 
ตัวอย่างข้างล่างนี้ครับ
【1】 อ. แอนดรูว์ บิกส์ (→คลิป) - อธิบายดีมาก ๆ
https://www.youtube.com/watch?v=gb49EJgunZk 
【2】 อ. อดัม (คลิป)
https://www.youtube.com/watch?v=Q_b4JrWRBS0 
https://www.youtube.com/watch?v=HLFndO-iVss 
【3】 อ.ต้นอมร
https://www.tonamorn.com/english/conversation/considerate-feel-free/ 
【4】 Pai Gavin
http://www.engbitbybit.com/2015/03/consideration.html 
【5】 ลีเซนเต้ คลีมองต์
https://board.postjung.com/650725.html 

♣ ผมนำ คำศัพท์พื้นฐาน 3135 คำ จากไฟล์ของ อ.ยุทธนา เลาหะวิสุทธิ์ มาจัดกลุ่มตามจำนวนพยางค์
หวังว่า คงจะเป็นประโยชน์บ้างต่อการจดจำ หรือคุณครูนำไปใช้สอนเด็ก
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในศัพท์ทั้งหมด 3 พันกว่าคำนี้ ศัพท์ 1 และ 2 พยางค์ มีมากที่สุดถึงกลุ่มละ 1 พันคำ
ส่วนกลุ่มที่มี 3-4-5-6 พยางค์ มีจำนวนลดน้อยลงมาตามลำดับ
→ http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/longman%20communicator%203000_syllable.pdf  

♦ มีบางคำที่ท่านอาจจะสงสัย เช่น medium ซึ่งจัดไว้ว่าเป็นคำ 3 พยางค์ ในกรณีอย่างนี้ ถ้าจะให้ชัด ท่านต้องดูที่ดิกซึ่งเขาแสดงจุด • ซึ่งแยกพยางค์ให้เห็นชัด ๆ เช่นคำนี้ [ me • di • um ] ต้องอ่านว่า " มี้ - ดี - เอิม "
→ https://www.ldoceonline.com/dictionary/medium 
→ http://www.thefreedictionary.com/medium 

       ดิกชันนารีนั้นมีไว้ให้เราเปิดดูศัพท์คำที่เราสงสัยความหมาย แต่ว่าดิกบางเล่มที่มีศัพท์ไม่มาก คือมีอยู่เล่มละประมาณหมื่นคำหรือไม่ถึงหมื่น และทุกคำเรามีโอกาสเจอบ่อย-ใช้บ่อยเป็นประจำ ดิกพวกนี้นอกจากใช้เปิดเมื่อติดศัพท์ ยังสามารถใช้เพื่อ ❝ อ่าน - test - ท่อง ❞ ได้อีกด้วย เราให้เวลาฝึกกับดิกพวกนี้ไม่เสียเที่ยวหรอกครับ

       อ่าน - ก็คืออ่านไปเรื่อย ๆ A → Z ทีละหน้า ๆ ตั้งแต่หน้าแรกไปจนถึงหน้าสุดท้ายนั่นแหละครับ โดยศัพท์แต่ละคำเขาจะแสดง → phonetic คือคำอ่าน ตามด้วย definition และ example ทีละความหมาย โดยเรียงจากความหมายที่ใช้บ่อยมากสุดไปหาที่ใช้บ่อยน้อยสุด และบางทีก็ตามด้วยอย่างอื่น เช่น phrasal verb, phrase, idiom, usage ฯลฯ ท่านอาจจะเลือกอ่านเฉพาะ definition ลำดับต้น ๆ หรือทั้งหมด ก็ทำได้ตามอัธยาศัยครับ แต่การฝึกแนวนี้ท่านจะได้หลายทักษะ คือได้ทั้ง vocab และ reading
       test - วิธีฝึกแบบนี้ก็คือ ให้ท่านพุ่งสายตาไปที่ประโยคหรือวลีตัวอย่างซึ่งมักจะพิมพ์เป็นตัวเอน ,อ่านดูและก็เดาว่าศัพท์ตัวนี้ในตัวอย่างนี้มันหมายความหรือแปลว่าอะไร, พยายามเดาให้ได้, เดาแล้วจึงค่อยเลื่อนสายตาขึ้นไปดู definition ที่พิมพ์เหนือขึ้นไปหน่อย, [ อันที่จริงถ้าท่านอ่านตัวอย่าง, แล้วแน่ใจว่าตัวเองเข้าใจความหมายได้ถูกต้องแน่ ๆ, จะไม่ต้องคิดถึง definition เป็นภาษาอังกฤษ หรือคำแปลเป็นภาษาไทย ก็ได้  ] นี่คือการ test ตัวเองและเป็นการฝึกเดาที่สุดวิเศษ เพราะว่า example และ definition ในดิกมันจะ match กันอย่างมาก ๆ และขอแนะว่า ให้ท่านอ่านประโยคหรือวลีตัวอย่างนั้นออกเสียงดัง ๆ ช้า ๆ {→ เสียง -ed} ให้ตัวเองได้ยิน เพราะประโยคหรือวลีพวกนี้มักจะไม่ยาวเกินไป และสามารถนำไปดัดแปลงใช้ในการพูดคุยหรือเล่าเรื่องได้ในชีวิตจริง ตอนที่อ่านออกเสียงนี้ให้นึกในใจว่า เรากำลังพูด, คุย, เล่า, หรือถาม ประโยคนี้ กับคนจริง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนของเรา หรือคนต่างชาติที่เรามีโอกาสคุยด้วย  การฝึกอย่างนี้ได้ผลจริง ๆ ครับ 
       ท่อง - ข้อนี้ก็คือ ถ้าท่านรู้สึกว่า ศัพท์คำนี้ - ความหมายนี้ มีโอกาสนำไปใช้ในการพูด-เขียน หรือมักจะอ่านเจอบ่อย ก็ให้กำหนดใจจดจำความหมายนี้ไว้ (mental note) หรือ หาสมุดโน้ตเล่มสวย ๆ จดคำศัพท์,ความหมาย,(คำแปล)ลงไปเลย ขอบอกว่า เมื่อสิ่งที่เราตั้งใจจะกำหนดจดจำได้ไหลผ่านมือลงไปสู่แผ่นกระดาษ มันช่วยให้เราจำได้แน่นขึ้น

      ท่านผู้อ่านครับ ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำเบื้องต้นที่ผมเชื่อว่า จะช่วยให้ท่านทั้งจำได้ - เข้าใจ - ใช้เป็น คำศัพท์ที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ ท่านอาจจะดัดแปลงซิกแซกโยกย้ายวิธีการฝึกได้ตามใจชอบ โดยดาวน์โหลดดิก 4 เล่มข้างล่างนี้ไว้เลยครับ เผื่อวันไหนเน็ตเดี้ยงก็สามารถเปิดไฟล์ pdf ขึ้นมาฝึกได้

• Longman Basic English-Thai Dictionary 
• Oxford Basic American Dictionary  
• Essential_ESL_Dictionary 
• Easier English Basic Dictionary 

พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th